ทองคำร่วง-บาทอ่อนในรอบ3สัปดาห์หลัง'เฟด'ยุติ'คิวอี' นายพิชญา พิสุทธิกุล อุปนายกสมาคมค้าทองคำ เปิดเผยว่า ราคาทองคำในประเทศเมื่อวันที่ 30ต.ค.ที่ผ่านมา ปรับลดลงครั้ง 4 ครั้ง โดยครั้งแรกลดลง 200 บาท และครั้งที่ 2 ถึงครั้งที่ 3 อยู่ที่ครั้งละ 50 บาท ซึ่งลดลงทั้งหมด 350 บาทเป็นผลมาจากราคาทองคำในตลาดโลกปรับตัวลดลงมาอยู่ที่ 1,203 ดอลลาร์สหรัฐต่อออนซ์ จากเปิดตลาดอยู่ที่ 1,214.50 ดอลลาร์สหรัฐต่อออนซ์ ขณะที่วันที่ 29 ต.ค.อยู่ที่ระดับ 1,230.50 ดอลลาร์สหรัฐต่อออนซ์ สำหรับสาเหตุที่ทองคำปรับราคาลง เป็นผลมาจากธนาคารกลางสหรัฐ(เฟด)ยุติ "คิวอี" ทำให้กองทุนเฮดจ์ฟันด์ มีการเทขายทองทำกำไรบางส่วน ส่วนแนวโน้มราคาทองคำจะเป็นอย่างไร ต้องติดตามดูเฟดว่าจะมีนโยบายขึ้นดอกเบี้ยเมื่อไหร่ เพราะมีผลต่อทิศทางทองคำ“แม้ว่าราคาทองคำอาจปรับตัวลดลง แต่เชื่อว่าจะดีดกลับ เพราะไม่มีสินทรัพย์ประเภทไหนที่น่าลงทุนมากกว่าทองคำ ขณะที่ตลาดหุ้นยังมีความผันผวน ซึ่งหากราคาทองคำแท่งแตะที่ระดับบาทละ 18,000 -18,500 บาท แนะนำให้นักลงทุนช้อนซื้อเก็บไว้ทำกำไร” นายพิชญากล่าวนายกอบสิทธิ์ ศิลปชัย ผู้บริหารงานวิจัยเศรษฐกิจและตลาดทุนธนาคารกสิกรไทย กล่าวว่า การยกเลิกคิวอีของสหรัฐฯ มีผลต่อภาวะเงินทุนเคลื่อนย้าย เพราะค่าเงินดอลลาร์ที่แข็งค่าขึ้นมีผลให้ค่าเงินบาทและค่าเงินในภูมิภาคอ่อนค่าลง ขณะเดียวกันต้องจับตาดูอัตราดอกเบี้ยพันธบัตรระยะเวลา 10 ปีของสหรัฐฯ เนื่องจากเป็นตัวชี้วัดสภาพคล่องของโลกและเป็นหัวจักรตลาดพันธบัตร ซึ่งถ้าดอกเบี้ยปรับเพิ่มขึ้น 2.5% แสดงให้เห็นว่าสภาพคล่องในระบบเกิดการตึงตัวหรือสภาพคล่องลดลงจากปัจจุบันอยู่ที่ 2.3% และในช่วง 2 สัปดาห์ที่ผ่านมาอยู่ที่ 2% นอกจากนี้ที่ผ่านมากองทุนเฮดจ์ฟันด์เริ่มขายหุ้นและหันมาซื้อพันธบัตรสหรัฐฯกันมากขึ้นรายงานข่าวจากนักค้าเงินธนาคารพาณิชย์ แจ้งว่า ค่าเงินบาทเปิดตลาดที่ระดับ 32.55-32.56 บาทต่อดอลลาร์สหรัฐ และปิดตลาดที่ระดับ 32.57-32.58 บาทต่อดอลลาร์สหรัฐซึ่งเป็นการอ่อนค่าสุดในรอบ 3 สัปดาห์ เนื่องจากตลาดมองว่าเฟดจะขึ้นดอกเบี้ยเร็วกว่าที่คาดการณ์ไว้ เห็นได้จากตัวเลขการจ้างงานเริ่มปรับตัวดีขึ้น ส่วนแนวโน้มค่าเงินบาทจะอ่อนค่าลงและอาจแตะที่ระดับ 32.70 บาทต่อดอลลาร์สหรัฐ

ขอขอบคุณแหล่งที่มา : บาทอ่อน-ทองร่วง แนะช้อนซื้อเก็งกำไร

Posts related