วันนี้ (17 ก.ค.) นายชัยพร เกียรตินันทวิมล ผู้อำนวยการฝ่ายบริหาร บริษัท บิซิเนส ออนไลน์ จำกัด ( มหาชน) หรือ บีโอแอล เปิดเผยว่า จากการเป็นผู้ให้บริการข้อมูลธุรกิจออนไลน์รายแรกและรายเดียวในประเทศไทยกว่า 19 ปี ปัจจุบันมียอดขายจากกลุ่มฐานลูกค้า 60% ที่เป็นกลุ่มธนาคารต่างๆ ปัจจุบันมีบริการต่างๆให้ลูกค้าเลือกใช้สำหรับเป็นข้อมูลในการวิเคราะห์ และตัดสินใจในการทำธุรกิจเป็นจำนวนมาก และเพื่อความง่ายในการเลือกใช้บริการ ทั้งนี้ บีโอแอล ได้จัดหมวดหมู่รวมกันเป็นโซลูชั่นให้ลูกค้าได้เลือก เพื่อให้เหมาะสมกับความต้องการ และขนาดของธุรกิจที่ทำอยู่ เป็น 5 โซลูชั่น คือ 1. โซลูชั่นเพื่อการบริหารลูกค้าครบวงจร (Customer Life Cycle Solution) 2. โซลูชั่นเพื่อการบริหารจัดการความเสี่ยง (Risk Management Solution) 3. โซลูชั่นเพื่อการวิเคราะห์ข้อมูลอัจฉริยะ (BI Solution) 4. โซลูชั่นเพื่อการจัดการฐานข้อมูล (Database Management Solution) และ 5. โซลูชั่นเพื่อการบริหารงานโปรเจคพิเศษ (Special Project Solution)   “ปัจจุบันการทำธุรกิจแข่งขันกันที่ความรวดเร็ว การมีระบบที่ดี และมีข้อมูลประกอบการตัดสินใจที่ถูกต้อง สามารถช่วยร่นระยะเวลาในการทำงานลงได้มาก โซลูชั่นทั้ง 5 จะช่วยให้ธุรกิจเป็นต่อ และลดความเสี่ยงในการทำธุรกิจลงได้ บริษัทฯ หวังว่าจะมีการเติบโตปีละ 15-20 % และในอนาคต บีโอแอล ได้เตรียมขยายตลาดเข้าสู่ เออีซี เพื่อให้ลูกค้าสามารถมีข้อมูลที่ดีในการตัดสินใจลงทุน รวมถึงการป้องกันความเสี่ยงต่างๆ ที่อาจจะเกิดขึ้น โดยตั้งเป้ามีรายได้ในระดับ 1,000 ล้านบาท ภายใน 5–7 ปีนี้” นายชัยพร กล่าว    นอกจากนี้ แต่ละโซลูชั่น ยังมีเครื่องมือต่างๆ สำหรับประกอบการตัดสินใจ และเลือกใช้บริการให้เหมาะสมกับความต้องการของธุรกิจอีกเป็นจำนวนมาก อาทิ ระบบ Corpus ที่ให้บริการข้อมูลนิติบุคคล ระบบ Hoovers บริการตรวจสอบข้อมูลบริษัทกว่า 89 ล้านบริษัททั่วโลก ระบบ GRS ช่วยตรวจสอบและเชื่อมโยงข้อมูลนิติบุคคลกว่า 235 ล้านบริษัทใน 214 ประเทศทั่วโลก ระบบ BIR ใช้วิเคราะห์ข้อมูลบริษัทเชิงลึกทั้งในและต่างประเทศ รวมทั้งการบริการ Debtline รับตามหนี้ทั่วเออีซี ด้วยสโลแกนเด็ด “ตามหนี้ไม่ได้ ไม่คิดเงิน” อย่างไรก็ตาม บีโอแอล ยังได้เตรียมออกบริการใหม่ๆ อย่างต่อเนื่องโดยจับมือกับ D&B ประเทศไทย พัฒนาเครื่องมือประเมินความเสี่ยงของลูกค้า และซัพพลายเออร์ได้ทั่วโลกด้วยระบบต่างๆ อาทิ 1.Portfolio Manager (PM) ช่วยกำหนดยุทธศาสตร์การบริหารลูกหนี้และตรวจสอบประสิทธิภาพนโยบายเครดิตเพื่อเพิ่มเงินหมุนเวียน 2.Supplier Portfolio Manager (SPM) เครื่องมือในการกำหนดยุทธศาสตร์การบริหารคู่ค้า (Vendor/Supplier) ได้อย่างมีประสิทธิภาพ สามารถประเมินความเสี่ยง Supplier ตรวจสอบความ   มีตัวตน เพิ่มอำนาจการต่อรอง และควบคุมต้นทุนได้อย่างเหมาะสม 3.Supplier Verification Program เหมาะสำหรับกลุ่มลูกค้าธนาคาร ที่ต้องการตรวจสอบความมีตัวตนของคู่ค้า (Vendor/Supplier) ภายในประเทศ  เพื่อให้เป็นไปตามมาตรฐานของธนาคารที่กำหนดไว้ ตลอดจนบริการตรวจสอบ Compliance List นอกจากนี้ บีโอแอล ยังให้ความสำคัญกับการขยายธุรกิจด้วยบริการรูปแบบใหม่ในตลาด เออีซี โดยเริ่มจากการเปิดตลาดในเวียดนาม นับว่าเป็นผู้ให้บริการข้อมูลธุรกิจออนไลน์เป็นรายแรกในประเทศเวียดนาม

ขอขอบคุณแหล่งที่มา : “บีโอแอล” เปิดตัว 5 โซลูชั่น เพื่อนักธุรกิจไทย ก่อนเข้าสู่ AEC

Posts related