“หม่อมอุ๋ย”ทำหนังสือเปิดผนึกถึง”นายกฯ” หยุดจำนำข้าวปีที่ 3 หลังใช้มา 2 ปี ขาดทุนสูง 4.25 แสนล้านบาท แถมเปิดช่องทางการโกง 1.1 แสนบ้าน
ม.ร.ว.ปรีดิยาธร เทวกุล อดีตรองนายกรัฐมตรีและรมว.การคลัง เปิดเผยในงานเสวนามหากาพย์จำนำข้าว สู่มหกรรมกอบกู้สุจริต ที่จัดขึ้นเนื่องในงานรำลึก 100 ปี ป๋วย อึ๊งภากรณ์ ว่า ได้ทำจดหมายเปิดผนึก เพื่อส่งข้อความไปยังนายกรัฐมนตรี โดยระบุว่ารัฐบาลไม่ควรยินยอมให้โครงการรับจำนำข้าวดำเนินต่อไปในปีที่ 3 แต่ให้ปรับเปลี่ยนมาใช้วิธีช่วยเหลือเกษตรกร จากการจ่ายส่วนเพิ่มทางตรงให้กับเกษตรกรแทน เนื่องจากโครงการรับจำนำที่ดำเนินการมา 2 ปี รัฐบาลขาดทุนไม่น้อยกว่า  4.25 แสนล้านบาท ขณะที่เกษตรกรได้รับประโยชน์จากโครงการเพียง 2.1 แสนล้านบาท ซึ่งไม่ถึงครึ่งของวงเงินในโครงการ  แต่ที่น่าเสียดายคือเงินกลับไปตกอยู่กับผู้อื่นที่ไม่ใช่เกษตรกร ใช้ช่องโหว่ทำการคอร์รัปชั่นเพื่อหาประโยชน์เข้าตนเองและพวกพ้องไปกว่า 1.1 แสนล้านบาทในช่วง 2 ปีผ่านมา ดังนั้นถึงเวลาแล้วที่รัฐบาบต้องสกัดกั้นการคอร์รัปชั่นในโครงการ "การจ่ายเงินส่วนเพิ่มไม่ใช่วิธีใหม่ และรัฐบาลปัจจุบันก็ได้ดำเนินการอยู่เหมือนกับกรณียางพารา ที่รัฐบาลจ่ายเฉพาะส่วนเพิ่มที่ต้องการให้กับชาวสวนยางรับโดยตรง ไม่เปิดโอกาสให้ผู้อื่นหาประโยชน์ และระบบการค้ายางยังดำเนินได้ตามปกติ"  ม.ร.ว.ปรีดิยาธร กล่าวว่า นายกรัฐมนตรีควรมีส่วนรับผิดชอบจากการใช้งบประมาณของชาติ หากยังเชื่อบุคคลที่อยู่รอบข้าง โดยยินยอมให้โครงการรับจำนำข้าวดำเนินต่อไปในปีที่ 3 ทั้งๆที่รู้แล้วว่าจะเกิดความเสียหายเช่นนั้น เพราะการรับจำนำ 2 ปี พิสูจน์แล้วว่ารัฐบาลใช้งบประมาณสูงมากถึง 6.7 แสนล้านบาท แต่ขาดทุนมหาศาลถึง 4.25 แสนล้านบาท โดยตัวเลขการคำนวณผลขาดทุนโครงการรับจำนำ 2 ปี คือฤดูกาล 2554/55 และ 2555/56 ได้ยึดหลักการคำนวณแบบสากล และสอดคล้องกับวิธีคำนวณของคณะกรรมกาปิดบัญชีโครงการรับจำนำข้าว กระทรวงการคลัง สำหรับการขาดทุนนั้นก็จะเป็นการคำนวนมาจากการขายข้าวต่ำกว่าต้นทุนรับจำนำมากกว่า 1 แสนล้านบาทต่อปี ค่าดอกเบี้ยส่วนเพิ่ม (3 ปี) 2.5 หมื่นล้านบาท ราคาข้าวลดต่ำ เพราะเสื่อมคุณภาพตามกาลเวลา 3.5 หมื่นล้านบาท ค่าเก็บรักษา ค่าขนส่ง ค่าใช้จ่ายอีก 9,200 ล้านบาท ยังไม่รวมกับข้าวที่หายจากสต๊อกรัฐบาลอีก 1 ล้านตัน ซึ่งเป็นความสูญเสียที่เกิดขึ้นในโครงการรับจำนำ แต่ผลประโยชน์ที่ตกถึงเกษตรกรได้รับเงินแค่ 2.09 แสนล้านบาท นายนิพนธ์ พัวพงศกร นักวิชาเกียรติคุณ สถาบันวิจัยเพื่อการพัฒนาประเทศไทย (ทีดีอาร์ไอ)  กล่าวว่า โครงการจำนำข้าวมีช่องทางที่น่าสงสัยในการทุจริต 8 จุดใหญ่  เช่น ข้าวหายจากบัญชี 2.9 ล้านตัน, รัฐยืนยันการส่งออกแบบจีทูจีให้ 6 ประเทศ 1.76 ล้านตัน แต่ตรวจสอบไม่เป็นจริง, รัฐขายข้าวในราคาต่ำกว่าราคาขายส่งในกรุงเทพฯ ทำให้ขาดทุนมโหฬาร, มีการแอบนำข้าวสารถูกใจไปขายในราคาตลาด และ ปกปิดข้อมูลต่างๆ เป็นต้น “ใน 3 ฤดูกาลแรกรัฐใช้เงิน 6.67 แสนล้านบาท ซึ่งไม่รวมค่าบริหารจัดการและดอกเบี้ยเงินกู้ ทำให้เกิดการเสียหาย 3 ประเด็นใหญ่ ๆ ประกอบด้วย ต้นทุนการคลัง, ความเสียหายทางเศรษฐกิจ และ เกิดการทุจริต”

ขอขอบคุณแหล่งที่มา : ร่อนหนังสือยกเลิก"รับจำนำข้าว"

Posts related