นายเมธี สุภาพงษ์ เลขานุการคณะกรรมการนโยบายการเงิน (กนง.) ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) เปิดเผยว่า กนง. มีมติเป็นเอกฉันท์ ให้คงดอกเบี้ยนโยบายไว้ที่ 2% ต่อปี เป็นครั้งที่ 4 ติดต่อกัน เนื่องจากประเมินว่า นโยบายการเงินที่ผ่อนปรนในปัจจุบันยังจำเป็นต่อการฟื้นตัวทางเศรษฐกิจ ที่ยังอยู่ในระยะเริ่มแรก โดยไม่ก่อให้เกิดความเสี่ยงด้านเสถียรภาพการเงิน โดยขณะนี้เศรษฐกิจกำลังเริ่มฟื้นตัวเป็นรูปวีเชฟ แต่อย่างไรก็ตาม ธปท.ได้ ทบทวนการขยายตัวทางเศรษฐกิจ (จีดีพี) ทั้งของปีนี้และปีหน้า รวมถึงเป้าหมายการส่งออกใหม่อีกครั้ง ในวันที่ 26 ก.ย.นี้ โดยได้คำนึงถึงปัจจัยต่าง ๆ ทั้งในและต่างประเทศเข้ามาด้วยแล้ว “มองว่าเศรษฐกิจโลกฟื้นตัวช้ากว่าที่คาดเล็กน้อย ตามความแตกต่างระหว่างภูมิภาค การฟื้นตัวของเศรษฐกิจกลุ่มประเทศสหภาพยุโรป และญี่ปุ่นยังคงอ่อนแอ แต่น่าจะได้รับแรงสนับสนุนเพิ่มเติมจากนโยบายเศรษฐกิจอย่างต่อเนื่องในระยะต่อไป ขณะที่เศรษฐกิจสหรัฐฯ ฟื้นตัวได้ตามคาด และเศรษฐกิจเอเซียโดยรวมยังขยายตัวได้ใกล้เคียงเดิม แต่ในด้านความเชื่อมั่นและการใช้จ่ายในประเทศนั้น เริ่มฟื้นตัวขึ้นหมดแล้ว ทั้งภาคธุรกิจ ภาครัฐ และภาคครัวเรือน โดยเฉพาะการเร่งเบิกจ่ายภาครัฐ ทำให้คาดว่าจะเป็นแรงขับเคลื่อนเศรษฐกิจให้ขยายตัวต่อไปได้ เพียงแต่ยังเป็นห่วงเรื่องการส่งออก ที่ยังต่ำกว่าที่คาด” อย่างไรก็ดี ยังมีข้อจำกัดด้านการผลิต และปัญหาราคาสินค้าเกษตร ที่มีผลต่อการส่งออกสินค้า ขณะที่ภาคการท่องเที่ยวเริ่มฟื้นตัวอย่างช้า ๆ ก่อนปรับเข้าสู่ระดับปกติ ส่วนระบบการเงินและอัตราเงินเฟ้อยังอยู่ในเกณฑ์ที่มีเสถียรภาพ ทำให้มั่นใจว่า ขณะนี้เศรษฐกิจไทยเริ่มกลับมาฟื้นตัวในลักษณะวีเชฟแล้ว โดยเริ่มเห็นสัญญาณการฟื้นตัวตั้งแต่ช่วงไตรมาส 2 ที่ผ่านมา จากการบริโภคที่เริ่มฟื้นตัว และการเดินหน้าการใช้จ่ายของภาครัฐเป็นตัวขับเคลื่อนที่สำคัญ ซึ่งขณะนี้รัฐบาลได้เริ่มดำเนินการต่าง ๆ ไปพอสมควรแล้ว ต้องรอดูผลที่จะเกิดขึ้นก่อนว่ามีมากน้อยแค่ไหน ซึ่งคงต้องใช้เวลาระยะหนึ่ง ส่วนความจำเป็นต้องใช้มาตรการ เพื่อกระตุ้นการบริโภคนั้น มองว่า การใช้มาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจที่เกินความจำเป็นจะใช้ได้ผลระยะสั้นเท่านั้น เนื่องจากมาตรการจะไม่ยั่งยืน พอใช้ไปได้ระยะเวลาหนึ่ง ทุกอย่างก็จะกลับมาเหมือนเดิม สำหรับปัจจัยเสี่ยงที่จับตาในขณะนี้ คือ เศรษฐกิจโลกในแต่ละประเทศหลัก ๆ ที่ฟื้นตัวแตกต่างกัน รวมถึงการดำเนินนโยบายทางการเงิน ที่แตกต่างกันด้วย ขณะที่ปัจจัยในประเทศขณะนี้ สิ่งที่เป็นห่วง คือ ภาคการส่งออกที่ต่ำกว่าที่ประมาณการไว้ โดยเฉพาะตัวเลข 7 เดือนที่ผ่านมา ยังอยู่ในระดับต่ำ “ขณะนี้คงไม่สามารถบอกตัวเลขได้ว่าจะเป็นอย่างไร ขอให้รอสัปดาห์ก่อน จะแถลงการปรับประมาณการเศรษฐกิจใหม่ทั้งหมด โดยนำข้อมูลที่เกี่ยวข้องมาพิจารณา ” อย่างไรก็ตาม ในการประชุมครั้งนี้ มีกรรมการ 2 คนที่ลาประชุม คือ นายณรงค์ชัย อัครเศรณี รมว.พลังงาน และนายอาคม เติมพิทยาไพสิฐ รมต.ประจำสำนักนายกรัฐมนตรี โดยแจ้งว่าติดภาระกิจ แต่ในการประชุมครั้งหน้า เดือนพ.ย.นั้น จะต้องเปลี่ยนกรรมการใหม่ 4 คน ที่ครบกำหนดตามวาระ

ขอขอบคุณแหล่งที่มา : กนง.คงดอกเบี้ย 2%

Posts related