นายสุนชัย คำนูณเศรษฐ์ ผู้ว่าการการไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย (กฟผ.) เปิดเผยภายหลังร่วมลงนามสัญญาแต่งตั้งธนาคารไทยพาณิชย์ เป็นที่ปรึกษาทางการเงินในการศึกษาการจัดตั้งกองทุนรวมโครงสร้างพื้นฐานสำหรับโรงไฟฟ้าพลังความร้อนร่วมพระนครเหนือ 2 ว่า กฟผ.เดินหน้าจัดตั้งกองทุนรวมโครงสร้างพื้นฐานตามนโยบายของรัฐบาล โดยนำโรงไฟฟ้าพระนครเหนือ 2 หน่วยที่1 มาเป็นทรัพย์สินในการระดมทุนคาดว่าจะได้เงินทุนกว่า 15,000-17,000 ล้านบาท เริ่มจำหน่ายได้ปี 57 สำหรับกองทุนรวมฯที่จัดตั้งขึ้น ถือเป็นการดำเนินการของรัฐวิสาหกิจกองแรกของประเทศไทย ซึ่งเป็นทางเลือกใหม่ในการหาแหล่งเงินทุนสำหรับใช้ในการขยายงานในอนาคต และช่วยลดหนี้สาธารณะของประเทศ โดยยืนยันการจ่ายผลตอบแทนให้กับผู้ลงทุนจะไม่สร้างภาระต้นทุนให้กับค่าไฟฟ้าอัตโนมัติ(เอฟที) และย้ำว่าไม่ใช่การแปรรูปรัฐวิสาหกิจ โดยกฟผ.ต้องการนำเงินที่ระดมทุนได้ไปใช้ในโครงการปรับปรุงระบบสายส่งและสร้างโรงไฟฟ้าแห่งใหม่ทดแทนโรงไฟฟ้าเก่าที่ปลดระวาง ทั้งนี้ กฟผ.มีแผนจัดตั้งกองทุนรวมโครงสร้างพื้นฐานโดยใช้รายได้หรือกระแสเงินสดในอนาคตของโรงไฟฟ้าพลังความร้อนร่วมพระนครเหนือเป็นทรัพย์สินในการระดมทุน ซึ่งธนาคารไทยพาณิชย์จะเข้ามาเป็นที่ปรึกษาทางการเงินเพื่อกำหนดโครงสร้างและแนวทางในการจัดตั้งกองทุนที่จะเป็นทางเลือกในการระดมทุนโดยไม่ก่อให้เกิดหนี้สาธารณะเพิ่ม โดยกฟผ.ยังคงเป็นเจ้าของและมีอำนาจในการบริหารจัดการแผนการเดินเครื่องและการบำรุงรักษาโรงไฟฟ้าพลังความร้อนร่วมพระนครเหนือเหมือนเดิม ในเบื้องต้นได้ประมาณขนาดของกองทุนรวมฯไม่น้อยกว่า 1 หมื่นล้านบาท และมีอายุกองทุน15-25ปี

ขอขอบคุณแหล่งที่มา : กฟผ. ตั้งกองทุนรวมโครงสร้างพื้นฐาน

Posts related