วันนี้(17 ธ.ค.) น.อ.สมศักดิ์ ขาวสุวรรณ์ ผู้อำนวยการศูนย์เตือนภัยพิบัติแห่งชาติ กระทรวงเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร(ไอซีที) เปิดเผยว่า ประเทศไทยปีนี้จะมีสภาพอากาศที่หนาวเย็นกว่าปีที่ผ่านมา โดยอุณหภูมิจะลดลง 6- 8 องศาเซลเซียล เมื่อเทียบกับอุณภูมิฤดูหนาวปีที่แล้ว ประกอบกับสภาพอากาศที่เปลี่ยนแปลงจากอากาศร้อนไปยังอากาศหนาวอย่างรวดเร็ว ดังนั้นศูนย์เตือนภัยฯ จึงอยากให้ประชาชนที่กำลังจะเดินทางท่องเที่ยวยังพื้นที่มีอุณหภูมิต่ำกว่า 15 องศาเซลเซียล เช็คสภาพอากาศ เตรียมเครื่องนุ่งห่มให้พร้อม โดยเฉพาะในบริเวณยอดดอยที่อุณหภูมิจะหนาวกว่าพื้นราบ ในพื้นที่ทางภาคเหนือและภาคตะวันออก อย่างไรก็ตามที่่ผ่านมาศูนย์ฯได้แจ้งประชาสัมพันธ์ว่าปีนี้อากาศจะหนาวเร็วขึ้นจากปีที่ผ่านมา ซึ่งประชาชนรับทราบข่าวและติดตามมาโดยตลอด ทำให้มีการเตรียมความพร้อมรับมือล่วงหน้าได้ ในขณะเดียวกันหากพื้นที่ใดมีอุณหภูมิต่ำกว่า 15 องศาเซลเซียล ได้ประกาศเป็นพื้นที่ประสบภัยหนาว เพื่อให้รัฐบาลนำงบประมาณไปช่วยเหลือในเรื่องเครื่องนุ่งห่มแก่ประชาชนในพื้นที่ต่อไป ด้านนายบุญธรรม ตั้งล้ำเลิศ หัวหน้าเวรพยากรณ์อากาศ กรมอุตุนิยมวิทยา กล่าวว่า สภาพอากาศของไทยที่มีอุณหภูมิลดลงอย่างรวดเร็วมีปัจจัยมาจากความกดอากาศสูงหรือมวลอากาศเย็นจากประเทศจีนได้แผ่ลงมาปกคลุมประเทศไทย ทำให้ภาคเหนืออุณภูมิลดลง 2-4 องศาเซลเซียล ภาคคะวันออกเฉียงเหนือลดลง 3-5 องศาเซลเซียล ภาคกลาง ลดลง 2-4 องศาเซลเซียล ภาคตะวันออก ลดลง 2-3 องศาเซลเซียล กรุงเทพฯลดลง2-3 องศาเซลเซียล ส่วนภาคใต้จะมีฝน อย่างไรก็ตามในวันที่ 18-19 ธ.ค. มวลอากาศเย็นจะแผ่ลงมาปกคลุมอีกระลอกจึงจะทำให้อุณหภมิของไทยลดลงได้อีก 2-4 องศาเซลเซียล “มวลอากาศเย็นที่จะแผ่ลงมาระลอกใหม่ช่วง 18-19 ธ.ค.จะทำให้อุณหภูมิพื้นราบในภาคเหนือและอีสานจะต่ำกว่า 10 องศาเซลเซียล ส่วนอุณหภูมิบนยอดดอย เช่น ที่ ดอยอินทนนท์ ดอยอ่างข่าง จะติดลบต่ำกว่า 0 องศาเซลเซียล จากที่ในวันที่ 17 ธ.ค.วัดอุณหภูมิได้ประมาณ 0-1 องศาเซลเซียลแล้ว ทำให้ในช่วงนี้บนดอยสูงสามารถเห็นน้ำค้างแข็งที่เรียกว่าเหมยขาบหรือแม่คะนิ้งได้ ซึ่งอุณภูมิที่ลดลงอย่างมากทำให้สภาพอากาศในฤดูหนาวของไทยในปีนี้จะหนาวที่สุดเมื่อเทียบกับฤดูหนาวในช่วง 2-3 ปีที่ผ่านมา” นายบุญธรรม กล่าว

ขอขอบคุณแหล่งที่มา : กรมอุตุฯเผย18-19ธ.ค.อากาศเย็นลงอีกบนดอยหนาวสุดขั้วติดลบ

Posts related