นายชาติชาย พยุหนาวีชัย รองกรรมการผู้จัดการ ธนาคารกสิกรไทย เปิดเผยว่า การปล่อยสินเชื่อให้ผู้ประกอบการอสังหาริมทรัพย์ของธนาคารจะให้ลูกค้ารายเก่ามากกว่ารายใหม่เพราะเน้นในเรื่องคุณภาพสินเชื่อเป็นหลัก และกลัวว่าถ้าปล่อยมากเกินไปจะทำให้การก่อสร้างโครงการเกินความต้องการที่แท้จริงโดยในช่วง 5 เดือนที่ผ่านมา(ม.ค.-พ.ค.) ธนาคารปล่อยสินเชื่อบ้านไปแล้ว 19,000 ล้านบาทจากเป้าสินเชื่อปีนี้ตั้งไว้ 49,000 ล้านบาทขณะที่ยอดสินเชื่อบ้านคงค้างอยู่ที่ 230,000 ล้านบาทหนี้ที่ไม่ก่อให้เกิดรายได้ (เอ็นพีแอล) ในเดือนม.ค.ที่เพิ่มขึ้นมาอยู่ที่ 1.8%จากปี 56 อยู่ที่ 1.6% ถือว่า ไม่น่าเป็นห่วงเพราะในเดือนก.พ.เอ็นพีแอลลดลงมาอยู่ที่ 1.7%และในเดือนพ.ค.ที่ผ่านมาลดมาอยู่ที่ 1.5% “ในช่วงชุมนุมทางการเมืองเดือนม.ค.-ก.พ.ที่ผ่านมามียอดปล่อยกู้เดือนละ 2,000 ล้านบาท และในเดือนมี.ค.เริ่มปรับตัวเพิ่มขึ้นปล่อยกู้ได้ประมาณ 5,000 ล้านบาทซึ่งส่วนหนึ่งเกิดจากผู้ประกอบการอสังหาริมทรัพย์ปิดงบไตรมาส 1จึงมีการโอนบ้านเป็นจำนวนมาก ขณะที่ในเดือนเม.ย.ยอดสินเชื่ออยู่ที่ประมาณ 4,000 ล้านบาทคาดว่าทั้งปียังได้ตามเป้าที่วางไว้” ทั้งนี้ในไตรมาส3 ของปีนี้ เชื่อว่าผู้ประกอบการธุรกิจอสังหาริมทรัพย์รายใหญ่จะมีการเปิดตัวโครงการแนวราบหรือโครงการบ้านเดี่ยวเพิ่มมากขึ้น โดยเฉพาะผู้ประกอบการที่จดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ฯ เพราะมีสภาพคล่องสูง ขณะที่โครงการคอนโดมิเนียมในกรุงเทพฯ ตามหัวเมืองใหญ่และแหล่งท่องเที่ยวยังไปได้ดี ยกเว้นตลาดต่างจังหวัดเริ่มอิ่มตัวเนื่องจากลูกค้ามีจำกัดทำให้ปริมาณการก่อสร้างเกินกว่าความต้องการของตลาด

ขอขอบคุณแหล่งที่มา : กสิกรเน้นปล่อยกู้คุณภาพ

Posts related