นางนวลพรรณ  ล่ำซำ กรรมการผู้จัดการและประธานเจ้าหน้าที่บริหารบริษัท เมืองไทยประกันภัย จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า ปัญหาความไม่สงบทางการเมืองทำให้ธุรกิจหันมาซื้อประกันภัยจราจลและก่อการร้ายเพิ่มขึ้น เพื่อป้องกันความเสี่ยงที่ไม่คาดคิดเกิดขึ้น  ส่วนลูกค้าที่ซื้อประกันมีใครบ้างนั้นไม่สามารถเปิดเผยรายละเอียดได้  แต่คาดว่าปีนี้จะมีเบี้ยประกันเพิ่ม เป็น 300 ล้านบาท จากเดิมมีเบี้ยเพียง 200 ล้านบาท  และปี 55 มีเบี้ยประมาณ140 ล้านบาท ขณะที่เบี้ยประกันภัยพิเศษหรือสเปเชียลโปดักส์ของบริษัทปัจจุบันอยู่ที่ 600-700 ล้านบาท  ขณะเดียวกันจะขยายบริการลูกค้าไปยังตลาดประเทศเพื่อนบ้านทั้งพม่าลาว กัมพูชา และเวียดนาม  ซึ่งกำลังศึกษารายละเอียดอยู่ เพราะแต่ละประเทศมีข้อจำกัดในด้านกฏระเบียบ       นอกจากนี้จะเน้นขยายตลาดรถบรรทุก  เนื่องจากระบบโลจิสต์ที่ข้ามบริเวณชายแดนมีอัตราการเติบโตสูงหลังจากเปิดประชาคมเศรษฐกิจอาเซียนหรือเออีซีในปี 58 ทำให้ผู้ประกอบการประกันภัยหันมาทำตลาดกันมากขึ้นโดยบริษัทจะทำตลาดอย่างค่อยเป็นค่อยไป ซึ่งเบื้องต้นคาดว่าจะมีเบี้ยประมาณ 400 ล้านบาทจากเบี้ยรถบรรทุกในตลาดรวมอยู่ที่ 8,000 ล้านบาท  ส่วนตลาดรถยนต์ปีนี้ลดสัดส่วนลง 1% จากเดิมอยู่ที่48% มาอยู่ที่ 47% เพราะหลังจากหมดนโยบายรถคันแรกทำให้ยอดขายรถยนต์ใหม่ลดลงดังนั้นจะเน้นทำตลาดนอนมอเตอร์หรือประกันภัยทั่วไปมากขึ้น คาดว่าจะมีสัดส่วนอยู่ที่53% จากเดิมอยู่ที่ 52%       “ปีนี้คาดว่ามีเบี้ยรับอยู่ที่ 10,350 ล้านบาทจากปีก่อนอยู่ที่ 8,891 ล้านบาท  โดยเน้นขยายผลิตภัณฑ์ผ่านตัวแทนและแบงก์แอสชัวรันด์ธุรกิจนายหน้า และพันธมิตรธุรกิจ  สำหรับผลิตภัณฑ์ปีนี้จะเน้น4ผลิตภัณฑ์คือประกันสุขภาพ ประกันฟัน ประกันสัตว์เลี้ยง เช่น สุนัข และแมว รวมถึงประกันผู้สูงอายุ  ส่วนวงเงินลงทุนปีนี้ประมาณ 8,500 ล้านบาทจากปีก่อนอยู่ที่ 7,500 ล้านบาท เน้นลงทุนในต่างประเทศเพิ่มขึ้น เพราะให้ผลตอบแทนสูงกว่า  โดยผลตอบแทนลงทุนปีนี้คาดว่าอยู่ที่ 6%  จากปีก่อนอยู่ที่ 5.29%   แบ่งเป็นตราสารหนี้53% และเงินฝาก  26.7% ที่เหลือเป็นหุ้น”       สำหรับผลประกอบการปี56ที่ผ่านมามีกำไรสุทธิ 772.4 ล้านบาท  ซึ่งสูงสุดนับจากควบรวมกิจการกับบริษัทภัทร ประกันภัยจากปี55 ที่ ขาดทุนสุทธิที่ 862.5 ล้านบาท

ขอขอบคุณแหล่งที่มา : การเมืองดันธุรกิจแห่ทำประกันภัยก่อการร้ายเพิ่ม

Posts related