นายกิตติรัตน์ ณ ระนอง รองนายกรัฐมนตรี และรมว.คลัง เปิดเผยว่า รัฐบาลยังไม่จำเป็นต้องออกมาตรการกระตุ้นธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ในช่วงที่เหลือของปีนี้ แม้ว่าการปฏิเสธคำขออนุมัติสินเชื่อเริ่มมีสัดส่วนเพิ่มขึ้น เนื่องจากธนาคารพาณิชย์ต้องมีการคำนวณรายได้และการผ่อนชำระของลูกหนี้อย่างรอบคอบ แต่ในทางกลับกันการอนุมัติสินเชื่อได้เพิ่มขึ้นเช่นกัน เพราะการแข่งขันการให้สินเชื่อของธนาคารพาณิชย์ยังมีต่อเนื่อง โดยบางช่วงรุนแรงถึงไม่ต้องมีการวางเงินดาวน์ อย่างไรก็ตาม ยอดขายอสังหาริมทรัพย์ยังเติบโตดีจะเป็นส่วนหนึ่งในการการขับเคลื่อนเศรษฐกิจ “ บุคคลที่ประกอบอาชีพอิสระไม่มีหลักฐานว่า มีรายได้ต่อเดือนเท่าไร แต่ปัจจุบันมีรายได้มากกว่าพนักงานที่ทำงานประจำ ซึ่งช่วงแรกสถาบันการเงินอาจไม่ปล่อยกู้ แต่ได้แนะนำให้ฝากเงินผ่านบัญชีธนาคาร หลังจากนั้นเห็นว่ากลุ่มคนกลุ่มนี้มีวินัยการออมสม่ำเสมอทำให้สถาบันการเงินปล่อยกู้ให้ทันที และขณะนี้ยังไม่เห็นสัญญาณการเก็งกำไรจนทำให้เกิดปัญหาฟองสบู่ของธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ ส่วนปัญหาหนี้ครัวเรือนแม้อยู่ในระดับสูง แต่หากเกิดจากการซื้อที่อยู่อาศัยถือว่าเป็นหนี้ที่มีคุณภาพมากกว่าการใช้จ่ายในสิ่งที่ไม่จำเป็น” นายอมรเทพ จาวะลา หัวหน้าส่วนวิจัย เศรษฐกิจและตลาดการเงิน สำนักวิจัย ธนาคาร ซีไอเอ็มบี ไทย กล่าวว่า ในวันที่ 18 พ.ย. นี้ สำนักงานพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติจะรายงานตัวเลขการเติบโตทางเศรษฐกิจของไทยในไตรมาสที่ 3 ซึ่งอาจสร้างความผิดหวังให้นักลงทุนได้ เพราะเศรษฐกิจไทยไตรมาส 3 อาจออกมาแย่ เนื่องจากปัจจัยด้านหนี้ครัวเรือนที่เร่งตัวแรงในระยะหลัง ประกอบกับมาตรการกระตุ้นจากภาครัฐในด้านการบริโภคได้ลดลง จึงส่งผลให้ครัวเรือนไทยมีรายได้หลังหักค่าใช้จ่ายโดยเฉพาะด้านดอกเบี้ยและเงินผ่อนอื่นๆ ลดลง และทำให้การบริโภคสินค้าคงทนลดลงเช่นกัน และมีผลกระทบต่อการผลิตสินค้าเพื่อการบริโภคในประเทศ ประกอบกับส่งออกหดตัว จึงอาจมีผลให้เศรษฐกิจไทยไตรมาส 3 จะยังคงหดตัวต่อเนื่องจากไตรมาสที่ 2 ซึ่งหากเป็นเช่นนั้นก็อาจกระทบต่อความเชื่อมั่นในผลประกอบการของบริษัทที่มีผลด้านจิตวิทยาต่อผู้ลงทุนได้

ขอขอบคุณแหล่งที่มา : “กิตติรัตน์”ยันไม่ออกมาตรการกระตุ้นอสังหาฯ

Posts related