นายกิตติรัตน์ ณ ระนอง รักษาการรองนายกรัฐมนตรี และ รมว.คลัง ได้โพสต์ข้อความผ่านเฟสบุ๊คส่วนตัว ระบุว่า ร่างพระราชบัญญัติให้อำนาจกระทรวงการคลังกู้เงินเพื่อพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานด้านคมนาคมขนส่งของประเทศ พ.ศ….. ที่มีอันต้องตกไปจากคำวินิจฉัยของศาลรัฐธรรมนูญเมื่อวันที่ 12 มี.ค.57 ทั้งๆ ที่ได้ผ่านการทำงานของฝ่ายบริหารและฝ่ายนิติบัญญัติมาแล้วคงจะเป็นประเด็นที่ได้รับการวิพากษ์วิจารณ์กันไปอีกนานพอสมควร ซึ่งหลายฝ่ายอาจใช้ความชอบความเชื่อของฝ่ายตนเป็นหลักแล้วสรรหาเหตุผลเท่าที่จะอ้างได้มาเสริมตามความชอบความเชื่อนั้นๆ สำหรับผมในฐานะ รมว.คลัง ซึ่งเป็นต้นทางของการเสนอร่าง พ.ร.บ. ฉบับนี้ เข้าสู่การพิจารณาของ ครม. จนมีความต่อเนื่องไปสู่การพิจารณาเห็นชอบของฝ่ายนิติบัญญัติ ขอยืนยันว่ากระบวนการการทำงานทุกประการมีความรอบคอบเป็นอย่างยิ่ง ทั้งด้านการกลั่นกรองโครงการโครงสร้างพื้นฐานด้านคมนาคมขนส่ง ทั้งทางราง ทางถนน ทางน้ำ และด่านที่เป็นจุดเชื่อมต่อไปยังต่างประเทศให้เหลือแต่เพียงโครงการที่มีศักยภาพสูง และแนวทางในการระดมทุนที่รอบคอบทั้งด้านวินัยการคลังและ วิธีอนุมัติโครงการที่จะมีการกลั่นกรองซ้ำโดยส่วนราชการที่สำคัญ เพื่อให้มีการปฏิบัติตามกฎหมายที่เกี่ยวข้องให้ครบถ้วนควบคู่ไปกับการพิจารณา ความคุ้มค่าของทุกๆ โครงการอีกครั้ง ก่อนที่คณะรัฐมนตรีในอนาคตจะอนุมัติเป็นรายๆ โครงการอีกครั้งหนึ่ง ขณะที่ การระดมเงินด้วยการเสนอเป็น พระราชบัญญัติให้อำนาจกระทรวงการคลังกู้เงิน ก็เป็นการดำเนินการในลักษณะเดียวกับการดำเนินการในอดีตมาตั้งแต่ปี 2492 ที่มีการออก พระราชบัญญัติมาแล้วเกือบ 10 ฉบับ “ผมรู้สึกเสียดายแทนประเทศและประชาชนคนไทยที่ร่าง พ.ร.บ. ฉบับนี้ต้องตกไป และขณะเดียวกันก็รู้สึกอีกสองประการ ประการแรกโล่งใจ เพราะหากร่าง พ.ร.บ. ฉบับนี้ผ่าน ผมก็ต้องเป็นคนหนึ่ง พร้อมๆ กับผู้คนอีกหลายๆ คน เช่นท่านชัชชาติ สิทธิพันธุ์ และอีกหลายๆ ท่านที่ต้องเอาใจใส่ (ถ้าได้ทำงานต่อ) หรือเอาใจช่วย (ถ้าไม่ต้องทำงานต่อ) ให้โครงการต่างๆเป็นไปอย่างที่ควรปราศจากความผิดพลาด อีกประการที่รู้สึกคือรู้สึกมั่นใจว่าโครงการส่วนใหญ่ในร่าง พ.ร.บ. ฉบับนี้จะถูกดำเนินการจนสำเร็จเสร็จสิ้นในอนาคต โดยรัฐบาลประชาธิปไตยของประเทศไทยที่ต้องตอบคำถามประชาชนว่าจะสร้างศักยภาพทางคมนาคมขนส่งของประเทศให้แข่งขันได้ในทางเศรษฐกิจ และสร้างคุณภาพชีวิตให้กับประชาชนเมื่อไร” /////////////////// 

ขอขอบคุณแหล่งที่มา : กิตติรัตน์โพสต์เฟสบุ๊คเสียดายโครงการ2ล้านล้านบาท

Posts related