หลายคนคงเคยได้ยินเรื่องเล่าสยองขวัญตามวิทยุที่ว่าอยู่ดี ๆ เราก็เห็นสิ่งของสามารถสั่นหรือเคลื่อนไหวได้ หรือแม้แต่ลอยขึ้นเองทั้งที่ไม่มีใครอยู่แถวนั้นเลย แล้วคุณผู้อ่านคอลัมน์วันพุธของผมล่ะครับ เคยไหมครับที่อยู่ในห้องคนเดียวหน้ากระจกแท้ ๆ แต่อยู่ ๆ ภาพในกระจกที่เห็นก็เป็นภาพของสิ่งของที่อยู่ด้านหลังลอยขึ้นเองกลางอากาศ แค่คิดก็ขวัญผวาแล้วใช่ไหมครับ ปรากฏการณ์สิ่งของขยับเองได้อย่างนี้ บางคนก็เรียกเป็นภาษาเยอรมันว่า โพล  เทอร์ไกสท์ (Poltergeist) ซึ่งโพลเทอร์ไกสท์เป็นเรื่องที่ทั้งน่าสยองขวัญ ทั้งน่าติดตาม และทั้งน่าพิสูจน์มานานนับศตวรรษ บางคนก็อธิบายไปในเชิงเรื่องเหนือธรรม ชาติไปเลย บ้างก็ว่าเป็นการใช้พลังจิตเคลื่อนย้ายสิ่งของ บ้างก็เชื่อว่าเป็นการกระทำของผีสางเทวดาหรือเวทมนตร์ บ้างก็ถามกลับเลยว่าคนเห็นตาฝาดไปเองหรือเปล่า แต่  ทั้งนี้ก็ต้องยอมรับจริง ๆ ครับว่าแม้แต่นักวิทยาศาสตร์บางคนเองก็ยังอธิบายเรื่องนี้ได้ไม่ชัดเจน ในบรรดาคำอธิบายทางวิทยา ศาสตร์หลากหลายประเด็น ประเด็นที่ดูมีเหตุผลหน่อยก็ว่าเรื่องนี้เป็นปรากฏการณ์ของพลาสมา หรือไฟฟ้าสถิตที่ไหลวนอยู่ในอากาศ ซึ่งในความคิดเห็นของคนที่เชื่อในวิทยาศาสตร์อย่างผมคำอธิบายนี้ก็พอมีเหตุมีผลให้รับฟังได้อยู่ แต่หลายคนก็แย้งนะครับว่าคำอธิบายนี้มันก็ยังไม่ชัดเจนพออยู่ดี ไม่ว่าใครจะอธิบายอย่างไร เชิงไสย ศาสตร์หรือเชิงวิทยาศาสตร์ แต่ตอนนี้คุณผู้อ่านอาจเริ่มตั้งคำถามแล้วว่าผมจะมาชวนคุยเรื่องสยองขวัญขนหัวลุกอย่างนี้ในวันพุธทำไม เดี๋ยวคืนนี้จะพากันนอนไม่หลับไปเสียหมด งั้นผมจะชวนคุณผู้อ่านกลับมาคุยกันเรื่องนวัตกรรมเทคโนโลยีแทนแล้วกันครับ แต่..เป็นเทคโนโลยีที่สามารถทำให้สิ่งของใด ๆ ลอยขึ้นได้ ใช่ครับ ผมไม่ได้ล้อเล่น ลอยขึ้นกลางอากาศเหมือนในหนังสตาร์วอร์ส หรือคล้าย ๆ กับปรากฏการณ์โพลเทอร์ไกสท์ที่ผมกล่าวในช่วงต้นไปนี่ล่ะครับ เพราะวันนี้มีศาสตราจารย์จากมหา วิทยาลัยโตเกียวที่ประเทศญี่ปุ่น ชื่อว่า ศาสตราจารย์จุน เรคิโมโตะ (Jun Rekimoto) ได้เสนองานวิจัยเกี่ยวกับการทำให้วัตถุลอยบนอากาศได้ แต่แทนที่จะใช้พลังจิตบังคับหรือใช้เครื่องกลไกเหมือนเครื่องบิน เขาเลือกใช้คลื่นเสียงในการบังคับวัตถุให้ลอยขึ้นและเคลื่อนที่กลางอากาศได้ ซึ่งการเคลื่อนที่ในอากาศนี้ก็ไม่ใช่แค่การเคลื่อนที่ขึ้นลงซ้ายขวาในระนาบสองมิติเท่านั้นนะครับ แต่รวมถึงการเคลื่อนที่ในมิติที่สามคือเดินหน้าถอยหลังก็ได้ด้วย อาศัยเพียง    การปรับคลื่นความถี่ของเสียงให้สอดรับกับตำแหน่งที่ต้องการให้วัตถุนั้นลอยอยู่เท่านั้น ตัวผมเองสมัยเรียนอยู่ที่ประเทศญี่ปุ่น เคยทำวิจัยที่พิพิธภัณฑ์วิทยาศาสตร์และนวัตกรรมแห่งชาติของรัฐบาลญี่ปุ่น (Miraikan) หัวข้อเกี่ยวกับการใช้แสงเลเซอร์มาสร้างรูปภาพสามมิติที่ลอยอยู่   กลางอากาศ แต่พอได้มาเห็นคลิปวิดีโองานวิจัยของลอยได้ชิ้นใหม่นี้แล้ว ก็ต้องยอมรับเลยครับว่างานนี้น่าสนใจมากและไม่ธรรมดาเลยจริง ๆ งานวิจัยนี้ได้ทำการทดลองไว้กับวัตถุหลายอย่างครับ ตั้งแต่หัวน็อต เศษไม้ หยดน้ำ หรือแม้แต่ไฟ LED ดวงเล็ก โดยวัตถุทั้งหมดผู้ทดลองสามารถบังคับให้ลอยและเคลื่อนที่ไปมากลางอากาศได้ แต่อย่าง ไรก็ตามวัตถุทดลองทั้งหมด ณ ตอนนี้ยังคงเป็นวัตถุขนาดไม่ใหญ่นัก ซึ่งในบทสรุปของงานวิจัยได้เขียนไว้ว่าพวกเขากำลังอยู่ในขั้นตอนการพัฒนาเพื่อให้ระบบสามารถใช้คลื่นเสียงขยับวัตถุที่มีขนาดใหญ่ขึ้นได้ เพราะฉะนั้นต่อไปในอนาคตถ้าเราเห็นแจกันหรือโทรศัพท์ลอยขึ้นได้เองในห้องร้าง ก็อย่าเพิ่งรีบตกใจขนหัวลุกกันไปก่อนนะครับ เพราะจริง ๆ แล้วเราอาจมีคำอธิบาย เชิงวิทยาศาสตร์แบบใหม่สำหรับปรากฏ การณ์เช่นนี้แล้วก็เป็นได้. ผศ.ดร.ชุติสันต์ เกิดวิบูลย์เวช หัวหน้าภาควิชาเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร (ICT) วิทยาลัยนานาชาติ มหาวิทยาลัยรังสิต chutisant.k@rsu.ac.th

ขอขอบคุณแหล่งที่มา : ของลอยได้ ผีหรือวิทยาศาสตร์? – รอบรู้ไอที รอบโลกเทคโนโลยี

Posts related