นายธีรัตถ์ รัตนเสวี โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า ที่ประชุมครม.เห็นชอบร่างพระราชบัญญัติกองทุนพัฒนาระบบสถาบันการเงินเฉพาะกิจ ตามที่สำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาได้แก้ไขเรียบร้อยแล้ว ซึ่งได้ปรับปรุงรูปแบบของกองทุนฯนี้เป็นกองทุนที่มีสถานะไม่เป็นนิติบุคคล แต่อยู่ในสำนักงานเศรษฐกิจการคลัง กระทรวงการคลัง จากเดิมที่กระทรวงการคลังเสนอให้เป็นนิติบุคคล เพราะคณะกรรมการกฤษฎีกาพิจารณาแล้วว่าเนื่องจากกองทุนไม่มีภารกิจในการกำกับดูแลหรือควบคุมหรือบังคับการดำเนินกิจการของสถาบันการเงินเฉพาะกิจมีแต่หน้าที่ในการรับเงินจากสถาบันการเงินเฉพาะกิจและจ่ายเงินตามวัตถุประสงค์ของกองทุนเท่านั้น จึงไม่จำเป็นต้องมีสถานะเป็นนิติบุคคลและเพื่อให้กองทุนสามารถลงทุนในพันธบัตรรัฐบาลได้ ทั้งนี้กองทุนฯนี้มีหน้าที่ช่วยเหลือสถาบันการเงินเฉพาะกิจในการเพิ่มทุนตามมติครม. รวมทั้งชดเชยในโครงการที่สถาบันการเงินเฉพาะกิจดำเนินการตามมติครม. รวมไปถึงให้เงินกู้แก่กองทุนเพื่อการฟื้นฟูและพัฒนาระบบสถาบันการเงิน และดำเนินการเพื่อสนับสนุนและพัฒนาระบบสถาบันการเงินเฉพาะกิจ ขณะเดียวกันสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกายังเห็นว่าการกำหนดวงเงินที่ต้องนำส่งเข้ากองทุนนี้ให้คำนวณจากยอดเงินที่ได้รับจากประชาชนโดยขึ้นอยู่กับคณะกรรมการกองทุนโดยความเห็นชอบของรมว.คลังที่มีอำนาจกำหนดรายละเอียดของยอดเงินที่ได้รับจากประชาชนและการคำนวณเงินนำส่งกองทุน รวมทั้งกำหนดอัตราการเรียกเก็บเงินนำส่งให้เป็นอำนาจของรัฐมนตรีประกาศกำหนดโดยความเห็นชอบของครม. แต่ต้องไม่เกิน 1% ซึ่งอัตราที่กำหนดให้สอดคล้องกับการจัดเก็บเงินเข้ากองทุนตามกฎหมายว่าด้วยสถาบันคุ้มครองเงินฝาก นอกจากนี้ ยังมีหลายประเด็นที่คณะกรรมการกฤษฎีกาได้แก้ไขร่างเดิมที่เสนอโดยกระทรวงการคลังทั้งชื่อของร่างพ.ร.บ.กองทุนฯ องค์ประกอบของคณะกรรมการกองทุนฯ หลักเกณฑ์เกี่ยวกับรายได้ของกองทุนที่ต้องนำส่งเป็นรายได้แผ่นดิน หลักเกณฑ์เกี่ยวกับการเงินและการบัญชีของกองทุน รวมไปถึงบทเฉพาะกาล เป็นต้น.

ขอขอบคุณแหล่งที่มา : คลอดกฎหมายตั้งกองทุนแบงก์เฉพาะกิจ

Posts related