นายสมชัย สัจจพงษ์ ผู้อำนวยการสำนักงานเศรษฐกิจการคลัง (สศค.) เปิดเผยว่า เมื่อวันที่ 5 มิ.ย. ที่ผ่าน ผู้บริหารกระทรวงการคลัง ได้เข้าหารือกับคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) เพื่อสรุปการจัดทำโรดแมปทางเศรษฐกิจ ซึ่งคาดว่าหลังจากนี้คณะที่ปรึกษาของ คสช. จะกลั่นกรองและสรุปแผนและประกาศโรดแมปอย่างเป็นทางการได้ในไม่ช้า ซึ่งจะเป็นปัจจัยหนุนการขยายตัวทางเศรษฐกิจของประเทศในระยะต่อไป สำหรับการทำโรดแมปทางเศรษฐกิจมีหลายกระทรวงเศรษฐกิจที่ทำงานร่วมกัน ในส่วนของกระทรวงการคลังก็ยังยืนยันในส่วนของมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจ การเบิกจ่ายงบประมาณปี 57 การเร่งทำงบประมาณปี 58 เร่งโครงการลงทุนพื้นฐานที่จำเป็น รวมทั้ง คงภาษีมูลค่าเพิ่มไว้ที่ 7% ต่อไปอีก 1 ปี และปฏิรูประบบภาษีเพื่อเก็บรายได้ให้พอกับรายจ่าย และสร้างความเป็นธรรมกับผู้เสียภาษีมากขึ้น ทั้งนี้ คสช. ได้สั่งการให้ทุกหน่วยงานทางเศรษฐกิจให้ความสำคัญกับการป้องกันการทุจริตคอร์รัปชั่นเงินงบประมาณ และได้มีการตั้งคณะกรรมการใช้งบประมาณภาครัฐ ซึ่งเป็นเรื่องที่กระทรวงการคลังต้องการให้เกิดขึ้นมานานแล้ว เพราะหากการใช้เงินงบประมาณอย่างไม่รั่วไหล จะเป็นประโยชน์กับเศรษฐกิจอย่างเต็มที่ สำหรับการใช้จ่ายภาครัฐ แบ่งออกเป็น การบริโภคภาครัฐมีสัดส่วน 10.3% ของจีดีพี และ การลงทุนภาครัฐมีสัดส่วน 4.7% ของจีดีพี โดยการเบิกจ่ายงบประมาณปี 57 วงเงิน 2.525 ล้านล้านบาท ที่ผ่านมา 7 เดือน เบิกจ่ายได้แล้ว 56.4% ของงบประมาณรายจ่าย ทั้งนี้ในช่วงเวลาที่เหลือหากเบิกจ่ายให้ได้ตามเป้าหมาย 95% ของงบประมาณรายจ่าย จะส่งผลดีกับเศรษฐกิจมีเงินไหลเข้าสู่ระบบเศรษฐกิจ กระตุ้นการใช้จ่าย เป็นการสร้างความมั่นใจนักลงทุนมากขึ้น โดยสศค. คาดว่าเศรษฐกิจปีนี้จะขยายตัวได้ไม่น้อยกว่าเป้าหมายที่ตั้งไว้เดิม 2.6% ต่อปี และในเดือน มิ.ย.นี้จะปรับประมาณการณ์ใหม่อีกครั้ง นอกจากนี้ การที่สถาบันจัดอันดับความน่าเชื่อถือชั้นนำของโลก ยังคงอันดับเครดิตของไทยไว้ ทั้งมูดี้ส์ อินเวสเตอร์ เซอร์วิส ที่ระดับ บีเอเอ 1 บริษัท ฟิทซ์ เรทติ้ง ที่ระดับ บีบีบี บวก และบริษัท สแตนดาร์ด แอนด์ พัวร์ (เอสแอนด์พี)  ที่ระดับ บีบีบี บวก ซึ่งเป็นอันดับที่น่าลงทุน สะท้อนให้เห็นว่าเศรษฐกิจที่แข็งแรงและรองรับความเสี่ยงทางการเมืองได้ ขณะเดียวกันการที่สถาบันจัดอันดับเครดิต ทริสเรตติ้ง ยังคงอันดับความน่าเชื่อถือของบริษัทในจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ เพราะเห็นว่าปัจจัยพื้นฐานของบริษัทยังแข็งแกร่ง สะท้อนได้จากกำไรของบริษัทยังขยายตัว นอกจากนี้แนวโน้มเศรษฐกิจที่ดีขึ้น จะช่วยให้ผลประกอบการของบริษัทจดทะเบียนขยายตัวได้เพิ่มขึ้นมากกว่าเดิม

ขอขอบคุณแหล่งที่มา : คลังเร่งสรุปโรดแมปเศรษฐกิจ

Posts related