นายอุดม วงศ์วิวัฒน์ไชย เลขาธิการคณะกรรมการส่งเสริมการลงทุน (บีโอไอ) เปิดเผยถึงผลสรุปการรับคำขอส่งเสริมการลงทุน ของโครงการผลิตรถยนต์ประหยัดพลังงานมาตรฐานสากล ระยะที่ 2 (อีโคคาร์ 2) ซึ่งเปิดให้ภาคเอกชน ยื่นขอรับส่งเสริมถึงวันที่ 31 มี.ค. 57 ว่า มีบริษัทยื่นขอรับส่งเสริมรวม 10 ราย รวมมูลค่าเงินลงทุน 138,889 ล้านบาท กำลังการผลิต 1,581,000 คัน แบ่งเป็นผู้ผลิตรายใหม่ 5 ราย เงินลงทุนรวม 86,810 ล้านบาท กำลังการผลิตรวม 753,000 คัน และผู้ผลิตรายเดิม 5 ราย เงินลงทุนรวม 52,079 ล้านบาท กำลังการผลิตรวม 828,000 คันสำหรับขั้นตอนต่อไป บีโอไอจะพิจารณา รายละเอียดคำขอของแต่ละรายว่า เป็นไปตามเกณฑ์ และข้อกำหนดที่ระบุไว้ในประกาศของบีโอไอหรือไม่ หากแต่ละรายได้ยื่นเข้ามาเป็นไปตามเกณฑ์ที่กำหนดครบถ้วน จะนำเสนอคณะกรรมการส่งเสริมการลงทุน (บอร์ดบีโอไอ) ทันทีที่มีการแต่งตั้ง เพื่อให้โครงการสามารถเดินหน้าได้ตามแผนงาน และในอนาคต“การเปิดให้ยื่นครั้งนี้ ถือว่าได้รับความสนใจจากผู้ผลิตรถยนต์จำนวนมากเกินคาด สะท้อนให้เห็นถึงความเชื่อมั่นต่อศักยภาพของไทย ในการเป็นฐานการผลิตรถยนต์ชั้นนำของโลก และยังส่งผลดีต่อการพัฒนาอุตสาหกรรมสนับสนุนภายในประเทศ โดยเฉพาะอุตสาหกรรมชิ้นส่วนของไทย ที่ต้องผลิตป้อนให้กับค่ายรถยนต์ใช้ในการผลิตอีโคคาร์ 2 ด้วย ที่สำคัญ จะมีส่วนช่วยผลักดันให้ไทยผลิตรถยนต์ได้ตามเป้าหมาย 3 ล้านคันภายในปี 60”แหล่งข่าวจากกระทรวงอุตสาหกรรม กล่าวว่า บีโอไอ ยังไม่สามารถเปิดเผยรายชื่อของค่ายรถที่ยื่นขอครั้งนี้ได้ เนื่องจากหลายค่ายรถยนต์ได้ขอไม่ให้เปิดเผยจนกว่าจะได้รับการอนุมัติ โดยค่ายรถเดิม ที่เข้าร่วมในโครงการแรกและได้ยื่นเฟส 2 ต่อ 5 รายได้แก่ ค่ายโตโยต้า,ฮอนด้า,ซูซูกิ,นิสสัน และมิตซูบิชิ ส่วนรายใหม่ที่ประกาศจะเข้าร่วมในโครงการเฟส 2 ที่ผ่านมาคาดว่าจะมี ค่ายฟอร์ด ,มาสด้า, เจเนอรัลมอเตอร์ (จีเอ็ม) ,โฟล์คสวาเกน และเอ็มจี ในเครือซีพีส่วนกรณีที่ยังไม่แต่งตั้งบอร์ดบีโอไอชุดใหม่นั้น ผู้ประกอบการเชื่อว่า จะไม่ได้รับผลกระทบ เนื่องจากขั้นตอนอนุมัติยังอีกหลายขั้นตอน และผู้ประกอบการสามารถผลิตรถได้ถึงปี 62

ขอขอบคุณแหล่งที่มา : ค่ายรถยนต์แห่ยื่น”อีโคคาร์”

Posts related