นายราฆพ ศรีศุภอรรถ อธิบดีกรมศุลกากร เปิดเผยว่า ขณะนี้ สถานการณ์ความไม่สงบทางการเมืองที่ยืดเยื้อช่วง 4-5 เดือนที่ผ่านมา ได้ส่งผลกระทบต่อการจัดเก็บภาษีไตรมาสแรก ปี 57 ของกรมศุลกากรต่ำกว่าเป้าหมายประมาณ 20% และต่ำกว่าช่วงเดียวกันปีก่อน 8% เนื่องจากการนำเข้าลดลงกว่า 100,000 ล้านบาท เพราะเอกชนขาดความมั่นใจ ทำให้การบริโภคของประชาชนลดลง และหากสถานการณ์ไม่สามารถคลี่คลายได้ การนำเข้าสินค้าที่สั่งซื้อล่วงหน้า 3 เดือน อาจล่าช้าออกไป ส่งผลให้ตลอดปีนี้จะเก็บภาษีต่ำกว่าเป้าหมายที่ 131,000 ล้านบาท หรือกว่า 20%  “หากสถานการณ์ยังมีความยืดเยื้อต่อไป จะทำให้การลงทุนได้ชะลอลงอย่างต่อเนื่อง เพราะรัฐบาลเป็นรักษาการ ทำให้ไม่มีนโยบายใหม่ และการลงทุนของภาครัฐในโครงการใหญ่ไม่สามารถดำเนินการได้ ซึ่งทำให้การลงทุนภาคเอกชนได้หยุดชะงักตามไปด้วย ส่งผลทำให้ในไตรมาสที่ 2-3 จะมีแนวโน้มแย่ลงกว่าเดิม” อย่างไรก็ตาม เชื่อว่าหากสถานการณ์กลับมาปกติได้ ปัญหาการเมืองคลี่คลายลงก็ต้องอาศัยเวลาในการฟื้นฟูความเชื่อมั่นด้านต่าง ๆ ดังนั้นคาดว่าการจัดเก็บรายได้ตลอดปีงบ 57 ยังคงต่ำกว่าประมาณ 5-10% เนื่องจากจำเป็นต้องใช้เวลาฟื้นความเชื่อมั่น หลังจากที่ผู้ประกอบการได้ชะลอการนำเข้าในช่วงที่ผ่านมา โดยปี 57 กรมศุลกากรตั้งเป้าหมายจัดเก็บรายได้ไว้ที่ 131,000 ล้านบาท ภายใต้สมมติฐานรัฐบาลลงทุนโครงสร้างพื้นฐาน 2.5  ล้านล้านบาทและโครงบริหารจัดการน้ำ 350,000 ล้านบาท รวมทั้ง ภาคเอกชนลงทุนเต็มที่ นอกจากนี้ นายราฆพ ได้เป็นประธานเปิดการสัมมนาแนะนำระบบเชื่อมโยงข้อมูลรายงานเรือเข้า และบัญชีสินค้าสำหรับเรือ ผ่านระบบเนชั่นแนล ซิงเกิล วินโดว์ ที่จะเริ่มใช้อย่างเป็นทางการตั้งแต่วันที่ 1 เม.ย.57 ให้กับผู้ประกอบการสายเรือ และเจ้าของตู้สินค้า ผู้นำเข้าและส่งออก กรมเจ้าท่า ท่าเรือกรุงเทพ ท่าเรือแหลมฉบัง โดยระบบดังกล่าวจะเชื่อมโยงข้อมูลกับหน่วยงานต่างๆ  ที่เกี่ยวข้องกับการนำเข้า-ส่งออก เพื่อลดการใช้เอกสาร และอำนวยความสะดวกแก่ผู้ประกอบการทุกสายอาชีพ อีกทั้งช่วยลดต้นทุนในการดำเนินธุรกิจ  

ขอขอบคุณแหล่งที่มา : จัดเก็บรายได้กรมศุลฯ57หลุดเป้า

Posts related