นายอุทัยสอนหลักทรัพย์ ประธานคณะทำงานเศรษฐกิจมหภาค การเงิน การคลังสภาที่ปรึกษาเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ เปิดเผยว่า ได้ เสนอความเห็นถึงเรื่องทิศทางเศรษฐกิจไทยปี 57ให้ทีประชุมครม.เร็ว ๆ นี้ รับทราบ โดยพบว่าเศรษฐกิจไทยในปีนี้ยังมีปัจจัยเสี่ยงจากหนี้สินครัวเรือนที่มีตัวเลขสูงถึง 81% ต่อ จีดีพี หรือคิดเป็นประมาณ 9.33 ล้านล้านบาท มีมูลค่าสูงกว่าหนี้ธุรกิจประชาชนขาดเงินออม ซึ่งหนี้ครัวเรือนที่สูงยังส่งผลต่ออำนาจซื้อสะท้อนจากตัวเลขการบริโภคภาคเอกชนปี 56 ที่ขยายตัวได้เพียง 0.8% ขณะที่ในปีนี้ สำนักงานคณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ (สศช.)ประเมินว่าอาจขยายตัวได้เพียง 2.7% จึงจำเป็นที่รัฐบาลใหม่ต้องเร่งเข้ามาแก้ปัญหานอกจากนี้ในผลกระทบด้านการท่องเที่ยว ในปี 56ภาคการท่องเที่ยวเป็นภาคส่วนเดียวที่สามารถขับเคลื่อนเศรษฐกิจไทย ถึงแม้จะมีปัญหาการเมืองในประเทศในช่วงปลายปีแต่ตัวเลขนักท่องเที่ยวต่างชาติที่เข้ามาในประเทศไทยยังสูงกว่าเป้าหมายคือมีจำนวนนักท่องเที่ยวทั้งสิ้น 26.7 ล้านคน คิดเป็นมูลค่าประมาณ 1.201ล้านล้านบาท แต่จากการเมืองในประเทศที่ส่อเค้ายืดเยื้อไปตลอดไตรมาสแรกไปจนถึงต้นไตรมาส 2 จะส่งผลกระทบต่อภาคการท่องเที่ยว โดยเฉพาะในเขตกรุงเทพมหานคร(กทม.)  เฉพาะในเดือนม.ค.57 ตัวเลขนักท่องเที่ยวลดลงไปถึง 400,000 คน และตัวเลขการจองทัวร์ของนักท่องเที่ยวต่างชาติ เดือนก.พ. ลดลง 50% อัตราห้องพักโรงแรม 5 ดาวในเขตกทม. ลดลงจาก 90% เหลือเพียง 30-40% นายอุทัยกล่าวว่า ภาคการท่องเที่ยวมีสัดส่วนอยู่ในระบบเศรษฐกิจ 10.54% ใน ปี 56ถือเป็นแหล่งรายได้ที่สำคัญ เนื่องจากไม่มีต้นทุนและรายได้กระจายลงทุกภาคส่วนโดยในปี 57 หากการเมืองในประเทศไม่ยืดเยื้อและรุนแรง คาดว่าการขยายตัวอาจได้มากถึง13% แต่หากยืดเยื้อและรุนแรงกระทบต่อแหล่งท่องเที่ยวอาจขยายตัวได้เพียง 5% เท่า นั้น โดยกลุ่มนักท่องเที่ยวที่ลดลงจะเป็นประเทศจีนฮ่องกง และไต้หวัน ส่วนนักท่องเที่ยวจากยุโรปยังมีการจองยอดทัวร์แต่ก็ขึ้นกับเหตุการณ์ในประเทศเป็นสำคัญ

ขอขอบคุณแหล่งที่มา : จับตาหนี้ครัวเรือนฉุดเศรษฐกิจ

Posts related