นายทนุศักดิ์เล็กอุทัย รมช.คลัง เปิดเผยว่า ในการประชุมครม.นัดพิเศษ เมื่อวันที่ 10 ธ.ค.ที่ผ่านมา คณะกรรมการการเลือกตั้ง(กกต.) ได้ยืนยันถึงการดำเนินโครงการรับจำนำข้าว ปี 56/57 สามารถดำเนินการต่อได้เฉพาะช่วงนาปีโดยที่ไม่ขัดต่อกฎหมายการเลือกตั้ง เพราะเป็นโครงการต่อเนื่องที่ดำเนินการมาแล้ว และมีกำหนดสิ้นสุดโครงการในวันที่28 ก.พ.57 ส่วนโครงการรับจำนำข้าวนาปรังซึ่งกำหนดเดิมจะต้องเริ่มต่อจากช่วงนาปีนั้น หากจะดำเนินการต่อคงต้องเสนอให้กกต.พิจารณาอีกครั้งว่าสามารถดำเนินการได้หรือไม่ “ขณะนี้ธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร(ธ.ก.ส.) ก็กำลังทยอยจ่ายเงินให้เกษตรกรที่นำข้าวเข้าร่วมโครงการทุกวันวันละหลายพันล้านบาทล่าสุดได้จ่ายไปแล้วประมาณ 20,000 ล้านบาท ส่วนกรณีเกษตรกรนำข้าวเข้ามาร่วมโครงการตั้งแต่ตอนเริ่มโครงการแล้วยังไม่ได้รับเงินนั้นตอนนี้กำลังทยอยจ่ายเรื่อยๆ เชื่อว่า ในช่วงกลางเดือนม.ค.57 จะสามารถจ่ายได้ครบทั้งหมดโดยกรอบวงเงินที่จะดำเนินการในช่วงนาปี จะใช้เงิน 150,000 ล้านบาท ซึ่งเกษตรกรจะต้องนำข้าวงเข้าร่วมโครงการภายใน 28 ก.พ.57 และนำใบประทวนมาขึ้นเงินได้ ภายใน 31มี.ค.57”   นายอำพน กิตติอำพนรักษาการเลขาธิการคณะรัฐมนตรี กล่าวว่า โครงการรับจำนำข้าวยังดำเนินการได้ตามปกติเพราะไม่ได้เป็นการอนุมัติงบประมาณที่ผูกพันกับงบประมาณของรัฐบาลต่อไปและไม่ต้องขออนุญาตกับกกต. ก่อน เพราะงบประมาณที่ต้องขออนุญาตคืองบกลางรายการสำรองจ่ายกรณีฉุกเฉินและจำเป็น ส่วนกรณีที่รัฐบาลเตรียมออกมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจครั้งใหญ่นั้นคงไม่สามารถออกได้เพราะอาจจะมีผลผูกพันกับรัฐบาลต่อไป “มาตรการที่จะผูกพัน เป็นเหตุผลที่กฎหมายกำหนดไว้ชัดเจนให้มีการเลือกตั้งภายใน 60 วัน เพื่อที่จะให้มีรัฐบาลใหม่มาตัดสินใจเรื่องกฎหมายที่ค้างและรออยู่เช่น กรณีของการกู้เงิน 2 ล้านล้านตอนนี้ยังมีเวลาอีกประมาณ 60 ถึง 90 วัน ที่รัฐบาลจะสามารถดูว่าเศรษฐกิจจะชะลอลงมากน้อยแค่ไหน หากเศรษฐกิจและการส่งออกไม่สามารถเติบโตได้เลย ถือเป็นกรณีฉุกเฉินที่จะสามารถออกมาตรการได้เพราะมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจระบุไว้ชัดคือเพื่อรักษาเสถียรภาพเศรษฐกิจ” ด้านนายชัชชาติ สิทธิพันธุ์ รมว.คมนาคม กล่าวว่าการกู้เงินเพื่อโครงการลงทุนโครงสร้างพื้นฐานด้านคมนาคม 2 ล้านล้านบาท ที่ถูกตั้งข้อสังเกตว่าต้องตกไปตามการประกาศยุบสภาหรือไม่นั้น ยืนยันว่า การดำเนินโครงการอาจช้าไปบ้างแต่กฎหมายดังกล่าวได้ผ่านการพิจารณาจากสภาในวาระที่3 ไปเรียบร้อยแล้วเหลือเพียงรอศาลรัฐธรรมนูญมีคำวินิจฉัยออกมาก่อน จากนั้นจึงรอให้รัฐบาลใหม่รอนำทูลเกล้าฯต่อไป ขณะที่โครงการลงทุนอื่นๆ หน่วยงานที่รับผิดชอบก็ยังไม่ดำเนินการตามขั้นตอนอยู่เช่น การศึกษารายละเอียด และเตรียมความพร้อม หากรัฐบาลใหม่มาก็เข้ามาเดินต่อได้ทันที

ขอขอบคุณแหล่งที่มา : จำนำข้าวนาปรังปี 57 ล่ม

Posts related