นายพยุงศักดิ์ ชาติสุทธิผลประธานสภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย(ส.อ.ท.) เปิดเผยว่าในการประชุมคณะกรรมการร่วมภาคเอกชน 3 สถาบัน (กกร.) ประกอบด้วย ส.อ.ท. สภาหอการค้าแห่งประเทศไทยและสมาคมธนาคารไทย ในวันที่ 3 ก.พ. นี้ ส.อ.ท.จะเสนอที่ประชุมช่วยเหลือผู้ประกอบการเอสเอ็มอีที่ได้รับผลกระทบจาการชุมนุมได้อย่างไรบ้าง เนื่องจากเหตุชุมนุมทางการเมืองที่ยืดเยื้อได้ส่งผลกระทบต่อผู้ประกอบการเอสเอ็มอี โดยเฉพาะรายย่อยเกิดปัญหาขาดสภาพคล่องมาได้ระยะหนึ่งแล้ว เนื่องจากมีสภาพคล่องในการลงทุนเพียงระยะสั้นเท่านั้น “ประเด็นที่จะพิจารณาจะเป็นขอความร่วมมือของภาคเอกชนกันเองว่า จะช่วยเหลือได้อย่างไรบ้างเพราะตอนนี้จะรอความช่วยเหลือจากภาครัฐไม่ได้ เนื่องจากสถานการณ์ปัจจุบันแต่ละหน่วยงานทำงานค่อนข้างลำบากอยู่แล้วการจะมาออกมาตรการช่วยผู้ประกอบการก็ยิ่งทำได้ยากโดยเบื้องต้นจะเสนอให้สมาคมธนาคารไทย พิจารณาการให้สินเชื่อลูกค้าเป็นราย ๆจากผลกระทบที่เกิดขึ้นในขณะนี้ว่า มาจากสถานการณ์การเมือง ไม่ใช่การบริหารที่ผิดพลาดของลูกค้าอย่าเหมารวมทั้งกลุ่มอุตสาหกรรม หากไม่หาทางช่วยเหลือด้านสภาพคล่องแก่ผู้ประกอบการรายย่อยเกรงว่าจะเกิดปัญหาหนี้เสียและส่งผลกระทบกว้างขึ้นจนเป็นปัญหากับเศรษฐกิจโดยรวม” นายธนิต โสรัตน์ รองประธาน ส.อ.ท. กล่าวว่าได้สำรวจข้อมูลสมาชิกในต่างจังหวัดของส.อ.ท. ซึ่งส่วนใหญ่เป็นธุรกิจเอสเอ็มอีล่าสุดพบว่า กำลังประสบปัญหาการขาดสภาพคล่องอย่างหนักโดยเฉพาะธุรกิจที่เกี่ยวข้องกับการค้าขายพืชเกษตรโดยเฉพาะข้าวเช่น โรงสีร้านขายปุ๋ย ร้านขายอุปกรณ์ทางการเกษตรและเมล็ดพันธุ์พืชเนื่องจากเกษตรกรผู้ปลูกข้าวยังไม่ได้รับเงินจำนำข้าวมานานส่งผลให้เงินในระบบที่เกี่ยวข้องในกรณีนี้หยุดชะงักการใช้จ่าย และสิ่งที่น่าห่วง คือเมื่อชาวนาไม่ได้เงินจึงหันไปกู้เงินนอกระบบ ที่มีดอกเบี้ยสูงมากขึ้น นอกจากนี้ภาคธุรกิจอุตสาหกรรมก็เริ่มประสบปัญหาขาดสภาพคล่องเช่นกัน เนื่องจากการบริโภคในประเทศที่ผ่านมาลดลงมากส่วนหนึ่งมาจากปัญหาเงินรับจำนำข้าว ส่งผลให้ประชาชนประหยัดเช่นเดียวกับภาคการส่งออกของไทยที่ยังไม่ดีนัก จึงส่งผลให้อัตราการใช้กำลังผลิตรวมของภาคการผลิตเฉลี่ยเพียง60-62% ส่งผลกระทบต่อเนื่อง ทำให้ธนาคารพาณิชย์ปล่อยสินเชื่อให้ผู้ประกอบการเอสเอ็มอีน้อยมากส่งผลให้ต้องพึ่งพิงเงินกู้นอกระบบมากขึ้น ส่วนการประกาศพ.ร.ก.ฉุกเฉินของรัฐบาล ระยะเวลา 60 วันส่งผลกระทบต่อภาคการท่องเที่ยวอย่างมาก ซึ่งในต่างจังหวัดหลายแห่งมีรายได้หลักมาจากภาคการท่องเที่ยว ยิ่งส่งผลให้กำลังซื้อในประเทศลดต่ำลงไป
ขอขอบคุณแหล่งที่มา : ชงกกร.เสริมสภาพคล่องเอสเอ็มอี
Posts related
- ธุรกิจน้ำดื่มใสสะอาด เพราะชีวิตขาดน้ำไม่ได้!
- ธุรกิจเสื้อผ้า ดีไม?ดียังไง? ปัจจุบันมีกี่รูปแบบ?
- ธุรกิจส่งออกสินค้า ดีไม?ดียังไง? ปัจจุบันมีกี่รูปแบบ?
- ธุรกิจร้านดอกไม้กับความรัก ความยินดี และ ความสดชื่นของชีวิต
- ธุรกิจโรงแรมรีสอร์ทที่พัก ดีไม?ดียังไง? ปัจจุบันมีกี่รูปแบบ?
- ธุรกิจร้านกาแฟ คุณคิดว่าคนที่ดื่มกาแฟเป็นประจำ จะมีสักกี่วันที่หยุดดื่ม? น่าลองขายนะ!
- ธุรกิจซักอบรีด รูปแบบไหนดีที่สุด?
- ธุรกิจค้าปลีกสินค้า ดีไม?ดียังไง?
- ธุรกิจร้านเบเกอรี่ รูปแบบไหนดีที่สุด?
- ธุรกิจขายส่งสินค้า ดีไม?ดียังไง? ปัจจุบันมีกี่รูปแบบ?
- อาชีพเสริมรายได้เสริม เมื่อมีรายได้หลายทางย่อมดีกว่ารายได้ทางเดียว
- 10 อาชีพเสริมที่น่าสนใจ
- อาชีพเสริม ถ้าไม่เริ่มทำตอนนี้แล้วจะรวยตอนไหน?
- ธุรกิจสปา ดีไม?ดียังไง?
- ธุรกิจคาร์แคร์ ดีไม?ดียังไง?
- 6 รูปแบบธุรกิจออนไลน์ที่ใครก็ทำได้ง่ายๆ
- 5 Trendsของยุค2020ที่จะนำไปสู่ธุรกิจชั้นนำที่น่าสนใจ
- แบบทดสอบประเมินตัวคุณเป็นยังไงและควรจะทำธุรกิจแนวไหนดี
- ความแตกต่างระหว่างธุรกิจส่วนตัวกับอาชีพอื่นๆ
- จะเริ่มต้นขายของออนไลน์ได้อย่างไร
- 5 ขั้นตอนการเริ่มต้นเปิดร้านค้าออนไลน์
- เทคนิคในการเลือกธุรกิจแฟรนไชส์ที่น่าสนใจ
- ทำไมต้องธุรกิจแฟรนไชส์ ดียังไง
- 5 เทคนิคควรรู้ก่อนตั้งชื่อธุรกิจออนไลน์
- 5 สิ่งที่ต้องห้ามเมื่่ออยากทำธุรกิจส่วนตัว
- 7 เทคนิคพื้นฐานสร้างธุรกิจSMEให้รอด
- จะเริ่มต้นธุรกิจส่วนตัวยังไงเริ่มจากไหนดี?
- ทำไมจะต้องทำธุรกิจส่วนตัว?
- ความรู้เบื้องต้นความหมายธุรกิจSMEs