นายสมชาติ สร้อยทอง อธิบดีกรมการค้าภายใน เปิดเผยหลังประชุมมาตรการรักษาเสถียรภาพราคาตลาดข้าวภายในประเทศและการช่วยเหลือเกษตรกรว่าในสัปดาห์หน้ากรมฯ จะเสนอแนวทางให้ที่ประชุมคณะกรรมการนโยบายข้าวแห่งชาติ (กขช.)ที่มีนายนิวัฒน์ธำรง บุญทรงไพศาล รองนายกรัฐมนตรีและรมว.พาณิชย์เป็นประธานแก้ไขปัญหาราคาข้าวในตลาดตกต่ำโดยการชะลอระบายข้าวผ่านวิธีขายตรงให้กับผู้ส่งออกข้าว เนื่องจากภาคเอกชนมองว่าวิธีการดังกล่าวทำให้ไม่ทราบปริมาณข้าวจะเข้าสู่ตลาดมากเท่าไหร่ และยิ่งทำให้ราคาข้าวในตลาดตกต่ำดังนั้นจึงใช้วิธีระบายข้าวผ่านการประมูลทั่วไปและการประมูลผ่านตลาดสินค้าเกษตรล่วงหน้าแห่งประเทศไทย(เอเฟต) แทน“ประเด็นที่คุยในการแก้ปัญหาข้าวราคาตกต่ำครั้งนี้ซึ่งมีตัวแทนจากโรงสีข้าว ผู้ส่งออกข้าวพ่อค้าคนกลาง เสนอมาหลายแนวทาง แต่แนวทางที่เป็นไปได้มากสุดและไม่ขัดกฎหมายคือชะลอการขายข้าวทางตรงไว้ก่อน และให้ใช้การประมูลทั่วไปกับเอเฟตโดยขอให้ผู้ส่งออกมาเข้าร่วมประมูลในวิธีดังกล่าวมากกว่าการเข้าไปซื้อข้าวตรงกับรัฐบาล” สำหรับแนวทางอื่นๆที่มีการเสนอคือให้โรงสีและผู้ส่งออกสำรองข้าวในสต๊อกเพิ่มมากขึ้น และให้รัฐบาลจ่ายดอกเบี้ยชดเชยนั้นเป็นแนวทางที่ทำไม่ได้เพราะอาจผิดต่อกฎหมายรัฐธรรมนูญที่รัฐบาลรักษาการณ์ไม่สามารถใช้งบประมาณเพิ่มเติมได้อีกจึงตัดประเด็นนี้ออกไปและเชื่อว่าหากมีการชะลอการขายข้าวทางตรงก็จะไม่กระทบแผนการส่งเงินคืนคลังเพื่อใช้คืนงบกลาง 20,000 ล้านบาทที่ยืมมาจ่ายชาวนาเพราะยังสามารถระบายข้าวผ่านประมูลและเอเฟตได้อยู่ อย่างไรก็ตามขณะนี้ราคาข้าวสารในตลาดปัจจุบันได้ปรับขึ้นมาเล็กน้อย 30-40 สตางค์ต่อกก.โดยราคาข้าวขาว 5%อยู่ที่ 11.40-11.70 บาทต่อกก.และราคาข้าวเปลือกในตลาดปรับขึ้นมาอยู่ที่ตันละ 7,400-7,800 บาท จากช่วงเดือนมี.ค.ที่ราคาข้าวเปลือดลดลงไปอยู่ที่ตันละ 6,700-6,800 บาทเนื่องจากมีกระแสข่าวว่าประเทศไนจีเรียจะลดภาษีนำเข้าข้าวทำให้ราคาข้าวในตลาดจึงกระเตื้องขึ้นมา และหากชะลอการระบายข้าวทางตรงได้ก็เชื่อว่าราคาข้าวจะปรับตัวเพิ่มขึ้นอีก

ขอขอบคุณแหล่งที่มา : ชงแนวทางแก้ราคาข้าวเปลือกตกต่ำ

Posts related