เมื่อเวลา 11.45 น. วันที่ 10 ม.ค. ที่กรมการขนส่งทางบก นายชัชชาติ สิทธิพันธุ์ รักษาการ รมว.คมนาคม เป็นประธานประชุมวางแผนร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องทั้งทางบกทางราง และทางเรือ เพื่อกำหนดรายละเอียดเตรียมรับมือการชุมนุม กปปส.ในวันที่ 13 ม.ค.นี้โดยนายชัชชาติ กล่าวว่า เป็นการซักซ้อมความพร้อมครั้งสุดท้ายเพื่อรองรับการให้บริการประชาชน โดยประเมินผลว่าการปิดการจราจรในครั้งนี้ มีผู้ได้รับผลกระทบ เป็นประชากรอาศัยอยู่ในพื้นที่ชุมนุม 680,000คน นักเรียนนักศึกษา 440,000 คนการจ้างงาน 1.2 ล้านตำแหน่งจำนวนเที่ยวการเดินทางที่เกี่ยวข้องโดยตรง 4.8 ล้านเที่ยว หรือคิดเป็น 26%ของการเดินทางทั้งหมดและต้องใช้เวลาเดินทางเพิ่มขึ้น 2เท่าจากช่วงปกติ ทั้งนี้ได้เตรียมจุดจอดรถไว้ 41จุด รองรับได้วันละ 1.8 หมื่นคัน ในทุกทิศทางรอบนอกและพื้นที่ด้านในกรุงเทพฯเพื่อลดการใช้รถส่วนตัวในเมือง และให้ประชาชนเดินทางผ่านระบบขนส่งสาธารณะ ทั้งรถเมล์รถชัตเติลบัส รถไฟ รถไฟฟ้า และเรือสาธารณะแทน พร้อมกับให้การรถไฟแห่งประเทศไทย (รฟท.)เพิ่มความถี่ของรถไฟชานเมืองมากขึ้นเป็น15 นาทีต่อขบวน ส่วนรถเมล์ประเมินหากวิ่งให้บริการได้1 ช่องทาง จะทำให้ใช้ความเร็วได้ 5-7 กม.ต่อชั่วโมงลดลงจากปกติที่ 12 กม.ต่อชั่วโมง ส่วนเส้นทางเลี่ยงจะมีการประเมินสถานการณ์เป็นรายวันอีกครั้งโดยถนนที่จะได้รับผลกระทบรถติดมากสุด คือ ถนนวิภาวดีรังสิต พหลโยธิน ถนนสุขุมวิทและถนนพระราม 4 จึงขอให้ผู้ใช้รถใช้ถนนอดทน ใจเย็น อย่ากระทบกระทั่งกัน นอกจากนี้สั่งการให้จัดจุดกลับรถพิเศษก่อนถึงบริเวณที่มีการชุมนุมประมาณ500 เมตร จำนวน 12 จุด เช่น ถนนวิภาวดีรัวสิตสุขุมวิท ลาดพร้าว สาธร สีลม เพชรบุรีตัดใหม่ พระราม 9 พระราม 4. รัชดาภิเษกราชดำเนินกลาง ราชวิถี พหลโยธิน เพื่อให้เลี่ยงไปใช้เส้นทางอื่นๆได้ส่วนทางด่วนที่คาดมีปัญหาการจราจรติดขัดทางการทางพิเศษแห่งประเทศไทย(กทพ.)จะปิดทางลงบางจุดเพื่อไม่ให้เกิดปัญหารถติดสะสมและกระทบต่อการจราจรบนทางด่วนทั้งหมด เบื้องต้นกำหนดปิดทางลงไว้ 6จุด คือ ทางลงสีลม หัวลำโพง ยมราช อนุสารีย์ชัยสมรภูมิ สุขุมวิท และพระราม 4 นายชัชชาติ กล่าวต่อว่าได้สั่งการให้รถไฟฟ้าใต้ดินที่รองรับผู้ใช้บริการได้ 1.5-1.7หมื่นคนต่อชั่วโมง และรถไฟฟ้าแอร์พอร์ตลิ้งค์ประมาณ 5,000คนต่อชั่วโมง เตรียมตั๋วโดยสารให้พร้อม เพื่อไม่ให้ผู้ใช้บริการเสียเวลาต่อแถวยาว ขณะที่เรือได้มีการเพิ่มเที่ยวเรือทั้งเรือด่วนเจ้าพระยาและคลองแสนแสบรองรับได้วันละ 60,000 คน ส่วนแผนจัดรถชัตเติ้ลบัส และรถเมล์ขสมก.ที่จะให้บริการเลี่ยงเส้นทางที่มีการชุมนุมจะต้องรอให้ถึงวันที่ 13 ม.ค.ก่อนจึงทราบว่าจะวิ่งให้บริการได้ตรงไหนอย่างไรบ้าง เพราะต้องประเมินตามสถานการณ์จริง โดยติดตามข้อมูลเส้นทางการเดินทางจุดจอดรถของกระทรวงคมนาคมจัดไว้ตลอดเวลาผ่าน www.mot.go.th และทางวิทยุสวพ. 91, จส.100 สายด่วน 1356หรือ 1584 “ช่วงนั้นการเดินทางอาจจะไม่ใช่2 ชั่วโมงเหมือนปกติ อาจจะเป็น 4หรือ 5 ชั่วโมง ต้องเผื่อเวลาการเดินทางไว้มากๆทางกระทรวงคมนาคมก็พยายามบรรเทาความเดือดร้อนแก่ชาวบ้านเต็มที่ แต่คงให้บริการไม่ 100%เหมือนปกติ และแผนนี้อาจรองรับประชาชนได้ส่วนหนึ่ง เพราะปกติคนกรุงเทพฯและปริมณฑลจะมีการเดินทาง 1 ล้านคน สำหรับรถชัตเติ้ลบัสที่เตรียมไว้บริการฟรีจากจุดจอดรถไปยังสถานีรถไฟฟ้ามีประมาณ600 คัน ส่วนรถเมล์ เรือ รถไฟ รถไฟฟ้ายังเสียค่าบริการปกติ” ผู้สื่อข่าวรายงานเพิ่มว่า หลังจากประชุมเสร็จ ต่อมาเวลา 14.00 น. นายชัชชาติได้เดินทางไปตรวจความพร้อมที่จอดรถสนามบินดอนเมือง พร้อมกับทดลองนั่งรถชัตเติ้ลบัสที่เชื่อมต่อกับสถานีรถไฟดอนเมือง เพื่อเดินทางเข้าเมืองหรือออกต่างจังหวัดด้วย

ขอขอบคุณแหล่งที่มา : ชัชชาติ สรุปแผนรับมือม็อบปิดกรุง

Posts related