นายสมศักดิ์ มุนีพีระกุล นายกสมาคมนายหน้าอสังหาริมทรัพย์ไทย เปิดเผยว่า แนวโน้มตลาดอสังหาริมทรัพย์มือสองปัจจุบันนี้ ขึ้นอยู่กับสถานการณ์ทางการเมืองว่าจะยืดเยื้อแค่ไหน เนื่องจากเป็นปัญหาที่มีผลต่อการตัดสินใจซื้อของผู้บริโภคทั้งบ้านใหม่ และบ้านมือสอง หากปัญหานี้ยังไม่จบ ก็เชื่อว่าน่าจะทำให้ตลาดซึมอย่างต่อเนื่อง ดังนั้นทางออกของผู้ประกอบการในขณะนี้ คือต้องสร้างความเชื่อมั่นให้ลูกค้าและทำการตลาดให้มากขึ้น“ที่ผ่านมา ลูกค้าที่กำลังจะตัดสินใจได้ชะลอการซื้อออกไป หรือบางรายยกเลิก โดยให้เหตุผลว่ารอดูสถานการณ์บ้านเมือง ส่งผลให้ยอดขายในภาพรวมนั้นลดลงไป 20% หากปัญหาการเมืองไม่รุนแรงมากไปกว่านี้ รวมทั้งเศรษฐกิจของต่างชาติดีขึ้น น่าจะทำให้ตลาดอสังหาริมทรัพย์มือสองดีขึ้นได้”อย่างไรก็ตาม ตลอดเวลาที่ผ่านมา สมาคมฯ พยายามพลักดันพ.ร.บ.นายหน้าอสังหาริมทรัพย์มาโดยตลอด แต่ภาครัฐยังไม่ได้ให้ความสำคัญเรื่องดังกล่าวเลย จึงต้องหามาตรการต่าง ๆ เพื่อสร้างความน่าเชื่อถือ และยกระดับวิชาชีพนายหน้าฯให้เป็นที่ยอมรับของประชาชน โดยเตรียมจัดระดับและสร้างมาตรฐานการทำงานเพื่อทำให้นายหน้าฯ มีความรู้ ความสามารถ ในการทำงาน ซึ่งจะช่วยสร้างความมั่นใจให้ทั้งผู้ซื้อและผู้ขายบ้านมือสอง รวมทั้งนายหน้าได้เป็นอย่างดีนอกจากนี้สมาคมฯ ได้ร่วมกับมหาวิทยาลัยเกษมบัณฑิต จัดหลักสูตรการเรียนในระดับปริญญาตรี และปริญญาโท สำหรับวิชาชีพนายหน้า เพื่อเป็นแนวทางในการพัฒนาวิชาชีพ คาดว่าภายใน 1ปีน่าจะนำมาใช้ได้ โดยมั่นใจว่าการจัดระดับคุณวุฒิวิชาชีพนี้ จะมีผลดีต่อธุรกิจบ้านมือสอง เนื่องจากภาพลักษณ์ของนายหน้าจะมีความน่าเชื่อถือมากยิ่งขึ้น และทำให้ลูกค้าทราบว่ากำลังใช้บริการกับนายหน้าที่มีคุณวุฒิวิชาชีพระดับใด ในที่สุดประชาชนจะเป็นผู้เลือกและตัดสินใจได้ง่าย ที่สำคัญจะทำให้ประชาชนหันมาสนใจซื้อ-ขายอสังหาฯ ผ่านนายหน้ามากขึ้น เนื่องจากมีความมั่นใจในเรื่องมาตรฐานการให้บริการ”ทั้งนี้สาเหตุที่ต้องจัดระดับมาตรฐานดังกล่าว เนื่องจากปัจจุบันนี้อาชีพนายหน้าฯของไทย ยังไม่มีองค์กรรองรับการกำหนดระดับมาตรฐานวิชาชีพ คือจุดเริ่มสู่การมีพ.ร.บ.นายหน้าฯ มาควบคุมการทำงาน เพราะการออกกฎหมายเป็นเรื่องใหญ่ ต้องใช้เวลาในการผลักดัน เชื่อว่าในอนาคตจะนำสาระสำคัญของคุณวุฒิวิชาชีพไปใช้เป็นส่วนหนึ่งในการควบคุมนายหน้าภายใต้พ.ร.บ.นายหน้าฯได้

ขอขอบคุณแหล่งที่มา : ชี้ตลาดอสังหาฯยังซึมยาว

Posts related