น.ส.นงเยาว์ พาชีรัตน์ รองผู้อำนวยการธนาคารออมสิน เปิดเผยว่า ปัจจุบันเงินออมภาคครัวเรือนมีแนวโน้มลดลง เหลือเพียง 30% ของอัตราการเติบโตทางเศรษฐกิจ แต่หนี้ครัวเรือนพุ่งสูงขึ้นเป็น 80% โดยธนาคารได้ส่งเสริมให้ประชาชนรู้จักการออมเงินมากขึ้น ที่สามารถฝากเงินได้เริ่มต้นตั้งแต่ 1 บาท รวมทั้ง ยังส่งเสริมให้มีธนาคารภายในโรงเรียนเพื่อปลูกฝังให้การออมอยู่ในวิถีชีวิตของเยาวชน เนื่องจากจะเป็นพื้นฐานให้สามารถนำเงินออมมาใช้จ่ายได้ในยามจำเป็น ก่อนตัดสินใจกู้เงินนอกระบบ เพราะการกู้เงินนอกระบบมีอัตราดอกเบี้ยที่สูง อาจส่งผลถึงกำลังการใช้จ่ายที่จะทำให้เกิดหนี้ภาคครัวเรือนขึ้นสำหรับแนวทางแก้ปัญหาหนี้นอกระบบ หรือการช่วยเหลือรายย่อย ต้องรอรับนโยบายจากนายชาติชาย พยุหนาวีชัย  หลังจากคณะกรรมการธนาคารออมสินแต่งตั้งให้ดำรงตำแหน่งผู้อำนวยการธนาคารคนใหม่ เพื่อรับนโยบายจากกระทรวงการคลัง ในการดูแลรายย่อย“ที่ผ่านมาในแต่ละยุครัฐบาลได้พยายามแก้ไขปัญหาหนี้นอกระบบ แต่ปัญหาก็ยังไม่ลดลง จึงแนะให้ประชาชนตระหนักถึงการออมเป็นหลักและเปลี่ยนทัศนคติให้แบ่งเงินไว้ส่วนหนึ่งเพื่อออม และนำเงินส่วนที่เหลือมาใช้จ่าย โดยวันที่ 31 ต.ค.ของทุกปี ถือเป็นวันแห่งการประหยัดและการออมของโลก เพื่อให้ตระหนักถึงความสำคัญของการออม สำหรับประเทศไทยได้กำหนดให้เป็นวันออมแห่งชาติมาตั้งแต่ปี 42 เป็นต้นมา”ทั้งนี้ ธนาคาร ในฐานะที่เป็นสถาบันเพื่อการออม ได้ดำเนินกิจกรรมด้านการออมมาโดยตลอดอย่างต่อเนื่อง พร้อมกับการจัดกิจกรรมพิเศษเพื่อกระตุ้นการออมทั้งในวันสถาปนาธนาคารออมสิน วันที่ 1 เม.ย.ของทุกปี จัดกิจกรรมในวันออมแห่งชาติ ตั้งแต่ปี 42 เป็นต้นมา สำหรับปีนี้ธนาคารได้กำหนดจัดกิจกรรม และของที่ระลึกชิ้นพิเศษที่จัดทำคู่กับกิจกรรมวันออมของธนาคารเป็นประจำทุกปี ขณะเดียวกัน ธนาคารได้จำทำกระปุกออมสินหีบสมบัติ มอบให้แก่ผู้ฝากเงินหรือเปิดบัญชีเงินฝากประเภทใดก็ได้ ตั้งแต่ 200 บาทขึ้นไป ที่ธนาคารออมสินสำนักงานใหญ่ และทุกสาขาทั่วประเทศ ภายใต้แนวคิดจาก คลังสมบัติ ที่หมายถึง การเก็บสะสมอย่างยืนยาว เพิ่มพูนเท่าทวีจนเป็นความมั่งมี ที่ทำให้คนไทยตระหนักและเห็นคุณค่าการออม ซึ่งเป็นสิ่งสำคัญในการสร้างความมั่นคงทางการเงินแก่ตนเอง อีกทั้งยังเป็นแหล่งทุนที่สำคัญในการพัฒนาประเทศด้วย

ขอขอบคุณแหล่งที่มา : ชี้เงินออมภาคครัวเรือนลดลง

Posts related