นายสุธี อัศวสุนทรางกูร ผู้จัดการฝ่ายขายระบบรักษาความปลอดภัยซิสโก้ ซิเคียวริตี้ เปิดเผยว่า ผลการสำรวจล่าสุดจากซิสโก้พบว่าสามในสี่ของผู้ตอบแบบสำรวจต่างระบุว่า จะนำโมบายล์ดีไวซ์ที่ใช้ในการทำงาน อาทิสมาร์ทโฟน แท็บเล็ต แล็ปท็อป ติดตัวไปด้วยในช่วงพักร้อน ซึ่งจากการสำรวจพบว่า 72เปอร์เซ็นต์ของผู้ตอบแบบสอบถามคาดว่าจะใช้เวลาประมาณหนึ่งถึงสองชั่วโมงต่อวันเพื่อเช็คดูว่าเกิดอะไรขึ้นบ้างในออฟฟิศ “โดยส่วนตัวผมเชื่อว่าตัวเลขที่แท้จริงอาจจะสูงกว่านี้ด้วยซ้ำเนื่องจากหลายๆ คนไม่สามารถขาดการเชื่อมต่อกับอินเทอร์เน็ตได้นานถึง 24ชั่วโมง ที่สำคัญ ส่วนใหญ่รู้สึกว่าจำเป็นที่ต้องติดตามงานเพื่อให้รู้ถึงความคืบหน้าในระหว่างวันหยุดด้วยซึ่งจุดนี้กลายเป็นเรื่องท้าทายสำหรับทีมรักษาความปลอดภัยขององค์กรไปแล้วเพราะบ่อยครั้งผู้ที่นำดีไวซ์ส่วนตัวไปเชื่อมต่อกับระบบไวไฟสาธารณะมักไม่ทันคำนึงถึงความเสี่ยงที่อาจมาพร้อมสัญลักษณ์“Free WiFi” ที่อาจก่อให้เกิดปัญหาตามมาเมื่อกลับเข้าสำนักงาน”นายสุธี กล่าว จากผลการสำรวจของซิสโก้ผู้ตอบแบบสอบถามกว่า 60เปอร์เซ็นต์ต่างยอมรับว่าไม่ได้ตรวจสอบความปลอดภัยของเครือข่าย Wi-Fi ก่อนเชื่อมต่อไม่ว่าจะเป็นในช่วงพักร้อนหรือในช่วงที่ทำงานอยู่ก็ตาม  แม้ว่าอีก 69เปอร์เซ็นต์จะยืนยันว่าองค์กรผู้ว่าจ้างเคยเตือนเกี่ยวกับความเสี่ยงที่อาจจะมาจากการใช้อุปกรณ์เชื่อมต่อจากระยะไกลเพื่อทำงานก็ตาม นายสุวิชชา มุสิจรัลที่ปรึกษาวิศวกรระบบรักษาความปลอดภัย ซิสโก้ ซิเคียวริตี้ กล่าวว่า  การใช้ ฟรี Wi-Fi มีความเสี่ยงหลักๆอยู่ 2 กรณี 1.การติดมัลแวร์โดยบังเอิญเพราะว่า เมื่อพนักงานใช้ฟรี Wi-Fi ร่วมกับบุคคลอื่นๆในสถานที่ที่หนึ่งนั้นหนึ่งในกลุ่มคนนั้นมีมัลแวร์อยู่ในอุปกรณ์ของตัวเองหรือเปล่าจนกลายเป็นพาหะของไวรัส หรือมัลแวร์หรือไม่ หากใช่ และเป็นชนิดที่เครื่องของพนักงานมีช่องโหว่อยู่ก็สามารถติดไวรัสหรือมัลแวร์เหล่านั้นได้ จากการใช้ฟรี Wi-Fi เพียงครั้งเดียวและเมื่อกลับมาที่ทำงานพนักงานคนนั้นจะกลายเป็นพาหะอีกต่อหนึ่งที่จะแพร่มัลแวร์เหล่านั้นในองค์กรทันทีเมื่อใช้ฟรี Wi-Fi ขององค์กร ซึ่งเป็นคอนเซ็ปต์เดียวกับการแพร่กระจายของเชื้อไวรัสสายพันธุ์ต่างๆที่กระจายอยู่ในอากาศ หรือมีผู้ป่วยเป็นพาหะหากร่างกายของเราไม่มีภูมิคุ้มกันเชื้อนั้นๆ ก็ป่วยได้และกลายเป็นพาหะแพร่เชื้อให้คนในบ้านหรือที่ทำงานได้ เช่นกัน   ในกรณีที่ 2การจู่โจมโดยจงใจ ซึ่งอาชญากรไซเบอร์คือกลุ่มคนที่มีความเป็นมืออาชีพและมีเครื่องมือที่เหนือชั้น และที่สำคัญยังรู้ดีอีกว่าพนักงานคือจุดอ่อนเหมาะแก่การมุ่งเป้าการโจมตีเพื่อให้สามารถเข้าถึงเครือข่ายขององค์กรแต่ละแห่งได้โดยสะดวกและยังรู้อีกว่าระบบป้องกันมักไม่ค่อยทำงานในช่วงที่พนักงานอยู่ในสภาพแวดล้อมที่ผ่อนคลายอาทิ วันพักร้อน หรือวันหยุดต่อเนื่องแบบยาวนานผู้โจมตีรู้ดีเสมอว่าในช่วงเวลาแบบนี้คนเรามักจะทำบางสิ่งที่ในเวลาปกติไม่สามารถทำได้ซึ่งส่วนหนึ่งในนั้นก็สามารถทำให้ระบบรักษาความปลอดภัยหย่อนความเข้มแข็งลงได้   “ผมเชื่อว่าคงมีใครตั้งใจที่จะทำให้ระบบรักษาความปลอดภัยเครือข่ายขององค์กรหย่อนต้องเผชิญหน้ากับความเสี่ยงแต่พนักงานก็ต้องเรียนรู้ที่จะตรวจสอบ และหลีกเลี่ยงการใช้เครือข่าย Wi-Fi สาธารณะที่ไม่ปลอดภัยในการทำงานและต้องมั่นใจว่าได้ปฏิบัติตามนโยบายบริษัทอยู่ตลอดเวลา ขณะเดียวกันองค์กรธุรกิจเองก็ต้องพร้อมรับมือกับความเสี่ยง และการโจมตีทุกรูปแบบ ที่สำคัญต้องมีความสามารถในการมองเห็นทุกความเคลื่อนไหวที่เกิดขึ้นบนเครือข่ายทั้งหมดเพื่อจับตากิจกรรมหรือพฤติกรรมที่ผิดปกติและจัดการกับมันได้ก่อนที่จะแพร่กระจายไปยังข้อมูลและแอพพลิเคชันสำคัญอื่นๆ ต่อไป” นายสุวิชชา กล่าว  

ขอขอบคุณแหล่งที่มา : ซิสโก้ เตือนภัยแฝงใน “ฟรี ไว-ไฟ”

Posts related