งานใหม่ของซีอีโอใหม่ในบริษัทแบล็คเบอร์รี่ ไม่ง่าย น่าท้าทายยิ่ง เพราะจะต้องฟื้นกิจการและสร้างกำไรให้กับแบล็คเบอร์รี่ ให้ได้ในเร็ววัน ด้วยความกล้าหาญและจะต้องเปลี่ยนให้ได้ ใครก็ตามที่สามารถฟื้นฟูกิจการและสร้างผลกำไรได้ระยะยาวให้กับแบล็คเบอร์รี่ได้ก็ต้องนับว่ากล้าหาญชาญชัยเอาเรื่อง เพราะแบล็คเบอร์รี่ประสบการขาดทุนและยังลุ้นในตารางตลาดหุ้นนิวยอร์กไม่ขึ้น ซีอีโอใหม่ จอห์น เชน ซึ่งเป็นประธานกรรมการบริหารคนใหม่ก็ต้องมาดำรงตำแหน่งซีอีโอด้วย โดยค่าตอบแทนนั้นค่อนข้างงดงามคือมีเงินเดือนแค่ 30 ล้านบาทต่อปี และได้รับโบนัสซึ่งขึ้นอยู่กับผลงาน และแน่นอนก็ผลประกอบการของบริษัทอีก 60 ล้านบาทต่อปี ซึ่งก็ต้องสร้างผลประกอบการบริษัทให้ดี เพื่อให้ราคาหุ้นขึ้น อันที่จริงเป็นแค่เพียงค่าใช้จ่ายในระหว่างการทำงานแต่สิ่งที่ได้เป็นเนื้อเป็นหนังก็คือ หุ้นจำนวน 13 ล้านหุ้น ซึ่งมีมูลค่าถึง 2,532 ล้านบาท เพราะฉะนั้นหน้าที่ของ จอห์น เชน ซีอีโอใหญ่ ก็ต้องสร้างผลประกอบการบริษัทให้ดี เพื่อให้ราคาหุ้นขึ้น ราคาหุ้นมูลค่า 2,532 ล้านบาทนั้นเป็นราคาเมื่อจันทร์ที่  11 พฤศจิกายนที่ผ่านมา และราคานี้เป็นราคาที่ซึ่งตกลงมาถึง 45% ในปีนี้ ซึ่งท่านผู้อ่านลองจินตนาการดู ถ้าเกิดผลประกอบการปีนี้ดี และเขากู้ชีพแบล็คเบอร์รี่ได้สำเร็จราคาเท่าเดิมมูลค่าหุ้นที่คุณจอห์น เชน พึงจะได้ก็จะต้องเลยหลัก 5,000 ล้านบาท แต่อย่างไรก็ตามวิธีการแบ่งปันผลตอบ แทนของซีอีโอของแบล็คเบอร์รี่ซึ่งก็เช่นเดียวกันกับบริษัททั่วไปในสหรัฐอเมริกาก็คือ ใน 3 ปีแรกบริษัทจะให้แค่ 25% ของมูลค่าหุ้นที่กล่าวไว้ข้างต้น 4 ปีต่อมาให้อีก 25%และอีก 5 ปีที่เหลือก็จะได้อีก 50% รวมความแล้วว่าให้เวลา 12 ปีที่จะต้องทำให้บริษัทรายได้ขึ้น ปัจจุบันอายุ 58 ปี ต้องทำให้บริษัทรวยอีก 12 ปี จนถึงอายุ 70 ปีก็ลองจินตนาการดูอีก 12 ปี ถ้าเกิดเขาทำให้ราคาหุ้นขึ้นได้ถึง 10 เท่า มูลค่าจะขยับขึ้นเป็นระดับสามหรือสี่หมื่นล้าน ถ้าเกษียณครบอายุ 70 ปียังแข็งแรงอยู่ก็จะมานั่งคิดต่อไปอีกว่าจะใช้เงินอย่างไรดีจนอายุครบ 90 ปี หรือ 100 ปี ก็ควรจะถนอมและรักษาสุขภาพเอาไว้ก็แล้วกัน คิดในแง่บวกก็คงจะรวยแล้วแต่จินตนา การ แต่ถ้าฝีมือไม่ถึงก็ผลประกอบการไม่ดีถูกไล่ออก จะมีอะไรเหลือบ้าง ซึ่งต้องยอมรับว่ามีโอกาสเกิดขึ้นได้อยู่แล้วโดยเฉพาะที่สหรัฐ อเมริกา เขาก็ยังได้รับเงินเดือน 30 ล้านบาทต่อปี จนกระทั่งถึงวันที่จะต้องลาออกจากบริษัท และเขายังจะได้รับเงินค่าตอบแทนต่างหากสำหรับการถูกให้ออกจากบริษัทเป็นเงินสองเท่าของเงินเดือนและโบนัสซึ่งก็คือ 180 ล้านบาทต่อปี สำหรับซีอีโอเดิมซึ่งถูกไล่ออกนั้น ซึ่งผมเขียนบทความพฤหัสบดีที่แล้วชื่อ ธอร์สเตน ไฮนส์ ได้รับเงินชดเชย 369 ล้านบาท อาจจะดูดีสำหรับเราและท่านผู้อ่าน แต่เมื่อเทียบกับผลงานและประสบการณ์ความสำเร็จเดิม ผมว่าเสี่ยงเอาพอสมควร เพราะค่าตอบแทนยังไม่สูงมากนักเวลาล้มเหลว แต่ถ้าไม่เสี่ยงชีวิตจะมันได้อย่างไร ค่าตอบแทนขนาดนี้ต้องยอมเสี่ยงกับชีวิตกันหน่อยจริงไหม หมื่นล้านรออยู่ข้างหน้า. รศ.ดร.บุญมาก ศิริเนาวกุล อธิการบดีมหาวิทยาลัยนานาชาติแสตมฟอร์ด boonmark@stamford.edu

ขอขอบคุณแหล่งที่มา : ซีอีโอใหม่แบล็คเบอร์รี่กับโบนัส 2,500 ล้าน – โลกาภิวัตน์

Posts related