รายงานข่าวจากตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (ตลท.) เปิดเผยว่า บรรยากาศการลงทุนในตลาดหุ้นไทยวันที่ 11 พ.ย. ดัชนีแกว่งตัวผันผวนอย่างหนัก ซึ่งดิ่งลงแรงกว่า 21 จุดทันทีที่เปิดตลาด เนื่องจากนักลงทุนกังวลสถานการณ์การเมืองในประเทศที่เริ่มร้อนแรงมากขึ้น และระหว่างวันอ่อนตัวในแดนลบอย่างหนักถึง 25.24 จุด จากนั้นฟื้นตัวขึ้นในช่วงบ่ายและพลิกกลับมาเป็นบวกได้หนุนดัชนียืนเหนือ 1,400 จุดอีกครั้ง ตามแรงเข้าซื้อกลับ ก่อนอ่อนตัวลงท้ายตลาดและเด้งกลับมายืนบวกได้ ส่งผลให้หุ้นไทยปิดตลาดที่ 1,405.91 จุด เพิ่มขึ้น 0.88 จุด หรือ 0.06% ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 32,285.22 ล้านบาทนายจรัมพร โชติกเสถียร กรรมการและผู้จัดการ ตลท. กล่าวว่า ดัชนีหุ้นไทยแกว่งตัวผันผวนแรง ซึ่งบางช่วงสามารถยืนบวกได้ตามแรงเข้าซื้อกลับของนักลงทุน เนื่องจากหุ้นบางตัวมีราคาต่ำว่าปัจจัยพื้นฐาน ทำให้เหมาะสมกับการลงทุนระยะยาว อีกทั้งจากสถิติที่ผ่านมา พบว่า สถานการณ์การเมืองที่เกิดขึ้นเป็นปัจจัยลบในระยะสั้นเท่านั้น อย่างไรก็ตาม ขณะนี้ ตลท.และโบรกเกอร์ ได้เตรียมความพร้อมเรื่องระบบการซื้อขายหลักทรัพย์กรณีฉุกเฉิน หรือบีซีพี เพื่อรองรับกรณีฉุกเฉินจากสถานการณ์การเมืองในประเทศแล้ว และจากการทดสอบระบบช่วง 1-2 เดือนที่ผ่านมา พบว่าทุกอย่างมีความพร้อม จึงมั่นใจว่าระบบการซื้อขายจะเดินหน้าได้ตามปกติไม่มีปัญหาแต่อย่างใด “ในวันที่ 11 พ.ย. มี 2 เหตุการณ์สำคัญ คือ เรื่องข้อสรุปคดีปราสาทเขาพระวิหาร และการประชุมวุฒิสภาเกี่ยวกับเรื่องพ.ร.บ.นิรโทษกรรม โดย ตลท.มั่นใจว่า ไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้น ระบบการซื้อขายก็พร้อมที่จะดำเนินการต่อเนื่อง นอกจากนี้ได้มีมาตรการต่างๆ ในการดูแลความผันผวนของตลาดหุ้นตามปกติ เช่น การกำหนดเพดานการซื้อขายสุงสุด (ซิลลิ่ง) ราคาต่ำสุด (ฟลอร์) รวมถึงการหยุดพักการซื้อขายหุ้นชั่วคราว 30 นาที (เซอร์กิตเบรกเกอร์) เป็นต้น”นายสาห์รัช ชัฎสุวรรณ ผอ.ฝ่ายการตลาดและที่ปรึกษาการลงทุน ธุรกิจกองทุนส่วนบุคคลและกองทุนรวม บลจ. ทิสโก้ กล่าวว่า สถานการณ์การเมืองในประเทศที่เริ่มส่งสัญญาณความรุนแรงมากขึ้น จะส่งผลกระทบกับการลงทุนในตลาดหุ้นไทย โดยประเมินว่ากรณีแล้วร้ายสุด ดัชนีจะปรับลดลงไปอยู่จุดต่ำสุดที่ 1,300 จุด แต่เมื่อถึงจุดนั้นน่าจะมีแรงซื้อจากนักลงทุน.

ขอขอบคุณแหล่งที่มา : ดัชนีตลาดหุ้นเหวี่ยงตามการเมืองเดือด

Posts related