นายธนวรรธน์พลวิชัย ผู้อำนวยการศูนย์พยากรณ์เศรษฐกิจและธุรกิจ มหาวิทยาลัยหอการค้าไทยเปิดเผยว่า ดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคเดือนก.พ. 57 อยู่ระดับ 69.9 เป็นอัตราที่ต่ำสุดรอบ 148 เดือน หรือ 12 ปี 4 เดือน นับตั้งแต่เดือนพ.ย. 44 เนื่องจากความกังวลของการขุมนุมทางการเมือง การชัดดาวน์กรุงเทพฯ ผลการเลือกตั้งวันที่ 2 ก.พ.ที่ไม่สามารถจัดตั้งรัฐบาลได้การประกาศใช้ พ.ร.ก. สถานการณ์ฉุกเฉินเป็นเวลา 60 วัน ความล่าช้าในการจ่ายเงินในโครงการรับจำนำข้าว ราคาพืชผลทางการเกษตรตกต่ำโดยเฉพาะยางพาราคาที่ราคา60 บาทต่อกก.ต่อต่ำกว่า 2-3ปีก่อนที่ราคา 180 บาทต่อกก. และปัญหาค่าครองชีพที่อยู่ในระดับสูง“ความเชื่อมั่นผู้บริโภคที่เป็นอยู่ในขณะนี้ถือว่าอยู่ในสถาวะที่ถดถอยมากจนผู้บริโภคไม่มีความเชื่อมั่นทั้งในปัจจุบันและในอนาคต โดยปัญหาหลักๆเป็นเรื่องปัญหาทางการเมือง การประกาศพ.ร.ก. ฉุกเฉินที่กระทบต่อการลงทุนและการท่องเที่ยวอย่างมากรวมถึงกรณีความล่าช้าในการจ่ายเงินโครงการรับจำนำข้าวที่ทำให้การบริโภคในต่างจังหวัดลดลงอย่างมากเนื่องจากชาวนาไม่มีเงินในการซื้อสินค้า”สำหรับสถานการณ์ทางการเมืองซึ่งเป็นปัญหาสำคัญของการชะลอตัวการบริโภคนั้นภาคธุรกิจและประชาชนต้องการให้ผู้ที่เกี่ยวข้องเร่งเจรจาในการหาทางออกของประเทศให้เร็วที่สุดรวมถึงการเร่งยกเลิก พ.ร.ก. ฉุกเฉิน ซึ่งสอดคล้องกับความเห็นขององค์กร 7 เอกชนก็เคยเสนอต่อรัฐบาลไปก่อนหน้านี้แล้วเพราะจะมีผลกระทบต่อการท่องเที่ยว และการลงทุน ซึ่งเป็นกลไกสำคัญในการขับเคลื่อนเศรษฐกิจไทยเพราะปัจจุบันกระแสของชะลอการมาเที่ยวในไทยของนักท่องเที่ยวต่างชาติเริ่มลดลงและเงินทุนต่างชาติบางส่วนก็เปลี่ยนแปลงจากเดิมมาไทยไปประเทศเพื่อนบ้านแทน

ขอขอบคุณแหล่งที่มา : ดัชนีเชื่อมั่นผู้บริโภคต่ำสุดรอบ 12 ปี

Posts related