รายงานข่าวจากกระทรวงพาณิชย์ เปิดเผยว่า ขณะนี้ทูตพาณิชย์ทั่วโลกแสดงความกังวลเกี่ยวกับสถานการณ์ทางการเมืองในประเทศไทยอย่างมากเนื่องจากได้ส่งผลกระทบต่อความเชื่อมั่นของนักธุรกิจในหลายประเทศต่อการเข้ามาลงทุน และการทำการค้า เนื่องจากยังไม่มั่นใจต่อเหตุการณ์ความไม่สงบ จนหลายบริษัทไม่กล้าส่งพนักงานเข้ามาดำเนินธุรกิจในประเทศไทยหากจะเจรจาการค้าก็อาจไปหารือกันในประเทศอื่นแทน ดังนั้นหากปัญหาการเมืองยังไม่ยุติทูตพาณิชย์เป็นห่วงว่าจะกระทบต่อการส่งออกไทยในปีนี้แน่นอน                 นายสุภัฒ สงวนดีกุล ผู้อำนวยการสำนักส่งเสริมการค้าในต่างประเทศ (ทูตพาณิชย์) ณ นครโอซากา ญี่ปุ่น กล่าวว่า ยอมรับว่าสถานการณ์การเมืองไทยมีผลต่อความเชื่อมั่นของของคู่ค้าในแถบเอเซีย โดยเฉพาะคู่ค้าจากประเทศญี่ปุ่นที่มีการติดตามข่าวสารการเมืองไทยอยู่ตลอดเวลา ซึ่งการจัดงานแสดงสินค้าอาหาร 57 ในวันที่ 21-25 พ.ค. นี้ มีลูกค้าจากญี่ปุ่นติดต่อสอบถามถึงสถานการณ์ทางการเมืองเข้ามาตลอด แต่ก็เชื่อว่าในวันงานลูกค้าจากญี่ปุ่นยังเดินทางมาร่วมงานเพราะลูกค้ามีการวางแผนล่วงหน้าไว้แล้ว แต่ก็เป็นห่วงว่าหลังจากงานครั้งนี้ลูกค้าจากญี่ปุ่นจะตัดสินใจไม่เข้ามาร่วมงานจากสถานการณ์การเมืองไทยได้                   นางเบ็ญจวรรณ อุกฤษ  ทูตพาณิชย์ ประจำกรุงวอชิงตัน ประเทศสหรัฐอเมริกา กล่าวว่า นักธุรกิจของสหรัฐมีความกังวลในสถานการณ์การเมืองของไทยบ้าง เพราะยังไม่นิ่ง และอยากเห็นไทยจัดการเลือกตั้งโดยเร็ว แต่ยังไม่กังวลมากจนถึงกับถอนการลงทุน หรือชะลอคำสั่งซื้อสินค้าจากประเทศไทย                  นางวิลาสินี โนนศรีชัย ทูตพาณิชย์  ประจำกรุงจาการ์ต้า อินโดนีเซีย กล่าวว่า สถานการณ์การเมืองในประเทศไทย มีผลกระทบต่อความเชื่อมั่นนักลงทุน ซึ่งผู้ประกอบการชาวอินโดฯบางส่วนระงับการเดินทางมาไทย  เช่น งานแสดงสินค้าอาหาร 57  จึงต้องมีการปรับแผนโดยให้ผู้ประกอบไทยเดินทางไปเจรจากับผู้ประกอบการโดยตรง                    นางพรพิมล เพชรกูล  ทูตพาณิชย์ ประจำกรุงเวียนนา ออสเตรีย กล่าวว่า ในปี 57 คาดว่าการส่งออกของไทยไปยังออสเตรีย และภาพรวมของอียูจะโตได้ประมาณ 5% และเศรษฐกิจของยุโรปมีแนวโน้มในทิศทางที่ดีขึ้น ทั้งนี้ประเทศในกลุ่มอียู ไม่มีความกังวลเกี่ยวกับปัญหาทางการเมืองไทย และยังความมีความเชื่อมั่นในการค้ากับประเทศไทย   เนื่องจากประเทศในแถบยุโรปไม่ใช่ประเทศที่อ่อนไหวต่อสถานการณ์ทางการเมือง เหมือนประเทศในแถบเอเชีย และเห็นว่าสถานการณ์ทางการเมืองเป็นเหตุการณ์ที่สามารถเกิดขึ้นได้ตลอดเวลา ในทุกประเทศ หากไม่กระทบต่อการค้าระหว่างประเทศก็ไม่มีปัญหา                 นายชูลิต สถาวร ทูตพาณิชย์ ประจำกรุงลอนดอน สหราชอาณาจักร กล่าวว่า สถานการณ์ทางการเมืองไทยไทยไม่ได้กระทบต่อความเชื่อมั่น และการค้าระหว่างประเทศกับกลุ่มประเทศอียูมากนัก ซึ่งส่วนที่ได้รับผลกระทบจะเป็นเรื่องของคู่ค้าที่ไม่สามารถเดินทางมาไทยได้ และเชื่อว่าหากการเมืองไทยจบได้ในเร็วๆนี้ การส่งออกภาพรวมไปในอียูอาจไม่ได้รับผลกระทบ และคาดว่าในปีนี้จะโตได้ 5% มูลค่า 23,000 ล้านเหรียญสหรัฐ เพราะเศรษฐกิจในอียูเริ่มฟื้นตัว                 นางอัมพวัน พิชาลัย ที่ปรึกษากระทรวงพาณิชย์ กล่าวว่า มั่นใจว่าการส่งออกของไทยในปีนี้ยังคงขยายตัวได้ จากภาวะเศรษฐกิจโลกที่เริ่มฟื้นตัวอย่างชัดเจน โดยเฉพาะในตลาดหลัก คือ สหรัฐ กลุ่มประเทศสหภาพยุโรป และญี่ปุ่น รวมถึงอาเซียน   โดยในวันที่ 19 พ.ค. กระทรวงพาณิชย์ได้มีการเรียกประชุมทูตพาณิชย์ จาก 64 ประเทศทั่วโลก เพื่อมาร่วมกันทบทวนปัญหาอุปสรรคของการส่งออก และในวันที่ 20 พ.ค. นี้จะมีการหารือปรับเป้าหมายการส่งออกให้เหมาะสมกับสถานการณ์ต่อไป

ขอขอบคุณแหล่งที่มา : ต่างชาติกังวลการเมืองไทยกระทบการค้า-การลงทุน

Posts related