นายเมฆินทร์  เพ็ชรพลาย กรรมการผู้อำนวยการใหญ่ บริษัทท่าอากาศยานไทย จำกัด (มหาชน) หรือ ทอท. เปิดเผยถึงกรณีเกิดเหตุระเบิดในอำเภอหาดใหญ่ จ.สงขลา และแผ่นดินไหว จ.เชียงรายว่า ได้สั่งการให้ท่าอากาศยานในความรับผิดชอบของ ทอท.ทุกแห่ง เพิ่มความเข้มงวดและมาตรการรักษาความปลอดภัยเชิงรุก โดยเฉพาะการปฏิบัติงานในส่วนที่เป็นเจ้าหน้าที่ของ ทอท.และบริษัทจัดจ้างให้เพื่อให้เป็นไปตามมาตรฐานในระดับ 3 ซึ่งเป็นระดับที่ให้ทุกท่าอากาศยาน ต้องประสานหน่วยงานข่าวในพื้นที่เพื่อประเมินความเสี่ยงที่อาจเกิดขึ้นด้วย  ทั้งนี้ในส่วนของท่าอากาศยานภูเก็ตและหาดใหญ่ได้สั่งเพิ่มมาตรการดูแลการเข้าออก โดยเพิ่มพนักงานรักษาความปลอดภัย และพนักงานทำลายอาวุธและวัตถุระเบิดในการตรวจตระเวนพื้นที่รอบนอก ทั้งบริเวณรั้วท่าอากาศยานถึงอาคารผู้โดยสาร และชั้นกลาง คือ ภายในอาคารผู้โดยสาร พร้อมกับเพิ่มความเข้มงวดในยานพาหนะ บุคคล สิ่งของต้องสงสัยที่จะนำไปใช้ในการก่อวินาศกรรม   ส่วนกรณีที่เกิดเหตุแผ่นดินไหวในพื้นที่ภาคเหนือเมื่อวันที่ 5 พ.ค.ที่ผ่านมา  ตนและผู้บริหารได้ลงไปตรวจสอบในพื้นที่และมีการเรียกประชุมเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้อง ซึ่งได้รับแจ้งว่าเมื่อเกิดเหตุได้มีการอพยพผู้คนออกจากอาคารผู้โดยสารของท่าอากาศยานแม่ฟ้าหลวง(เชียงราย) จากนั้นได้ส่งวิศวกรของ ทอท.เข้าไปสำรวจสถานที่ ซึ่งพบว่าเกิดความเสียหายเฉพาะพื้นผิวปูน เพดาน หลอดไฟ และมีสิ่งของหล่น แต่ไม่มีผู้ได้รับบาดเจ็บ ส่วนตัวโครงสร้างอาคารไม่ได้รับผลกระทบ และสามารถให้บริการได้ตามปกติ นายเมฆินทร์ กล่าวว่า ความเสียหายบริเวณอาคารหอบังคับการบินของบริษัทวิทยุการบินแห่งประเทศไทย จำกัด(บวท.) พบว่าเสียหายเพียงเล็กน้อย แต่ไม่มีผลกระทบต่อการขึ้น-ลงของอากาศยาน แต่ยังต้องเฝ้าระวังเหตุอาฟเตอร์ ช็อก ทำให้ช่วงนี้ยังคงงดใช้สะพานเทียบเครื่องบินในการให้บริการผู้โดยสารขึ้นเครื่อง เนื่องจากอาจทำให้เครื่องบินได้รับความเสียหาย รวมทั้งเตรียมพร้อมหากต้องมีการอพยพคนตลอดเวลา โดยได้ประสานกับหน่วยงานที่เชี่ยวชาญทางด้านธรณีวิทยา เพื่อเตรียมความพร้อมได้อย่างทันเหตุการณ์

ขอขอบคุณแหล่งที่มา : ทอท.คุมเข้มเข้า-ออกสนามบินทุกแห่ง

Posts related