นายชัชวาลย์ บุญเจริญกิจ  อธิบดีกรมทางหลวง เปิดเผยว่า ตั้งแต่วันที่ 1 ก.ค.นี้ เป็นต้นไป กรมทางหลวงได้กำหนดให้รถพ่วงขนาด 20 ล้อ 22 ล้อ และ 24 ล้อ ที่มีน้ำหนักรถบรรทุกรวมเกิน 50.5 ตัน วิ่งบนทางหลวงพิเศษ ทางหลวงแผ่นดินและทางหลวงสัมปทาน เพื่อป้องกันการทำถนนเสียหาย ซึ่งเป็นการปรับลดน้ำหนักบรรทุกลง จากประกาศทางหลวงเดิมเมื่อเดือนม.ค.-มิ.ย.57 ที่อนุญาตให้รถบรรทุกน้ำหนักได้ถึง 52-58 ตันทั้งนี้เนื่องจากกรมการขนส่งทางบก ได้ศึกษาพิกัดรถบรรทุกที่เหมาะสมสำหรับไทย ทั้งด้านวิศวกรรม โครงสร้างถนน โครงสร้างสะพาน ยานยนต์ ด้านเศรษฐศาสตร์ ด้านลอจิสติกส์ และการบังคับใช้กฎหมาย โดยพบว่าน้ำหนักบรรทุก 50.5 ตัน มีค่าพิกัดน้ำหนักบรรทุกเกินกว่าค่ามาตรฐานความปลอดภัยในการรับน้ำหนักของถนนที่ออกแบบเอาไว้แล้ว หากเพิ่มน้ำหนักบรรทุกพ่วงของทั้งขบวนเป็น 58 ตัน อาจทำให้อัตราส่วนปลอดภัยของถนน และสะพานลดลงจากมาตรฐานการออกแบบอีกนอกจากนี้ยังทำให้อายุการใช้งานถนน และสะพานสั้นลง ต้องเสียงบซ่อมบำรุงเพิ่มขึ้น โดยประเมินว่าหากต้องการให้ถนนและสะพานมีอัตราส่วนความปลอดภัยและมีอายุการใช้งานตามกำหนด จะต้องลงทุนเพิ่มอีกไม่น้อยกว่า 160,000 ล้านบาท ตลอด 15 ปี ยังไม่รวมงบเบื้องต้นที่ต้องปรับปรุงสภาพถนน และสะพานในปัจจุบันอีกกว่า 856,000 ล้านบาท

ขอขอบคุณแหล่งที่มา : ทางหลวงสั่งจำกัดน้ำหนักรถพ่วงเหลือ 50.5ตัน

Posts related