วันนี้(16ม.ค.)นายมารุต มณีสถิตย์ กรรมการผู้จัดการ ประจำประเทศไทย บริษัท ฮิตาชิ ดาต้า ซิสเต็มส์พีทีอี ลิมิเต็ด เปิดเผยว่าในปี 57แนวโน้มเรื่อง2B2Cจะมาแรงเนื่องจากมีการเปลี่ยนผ่านสู่การใช้งานโซเชียลเน็ตเวิร์กทำให้บริษัทที่มีบริการด้านการทำโซเชียลเน็ตเวิร์คโดยเฉพาะธุรกิจโทรคมนาคมที่จำเป็นต้องลงทุนด้านสตอเรจและการจัดการข้อมูลเพิ่มขึ้นเพื่อรองรับการเติบโตของข้อมูลรวมทั้งยังมีความร่วมมือระหว่างธุรกิจโทรคมนาคมไปสู่ธุรกิจอื่นๆเช่น ธุรกิจธนาคารเกิดบริการโมบายแบงก์กิ้งบริการซื้อขายหุ้นทางมือถือรวมถึงบริการประกันภัยต่างๆซึ่งก่อให้เกิดการเติบโตของข้อมูลสูงมากในขณะที่ภาครัฐจะต้องเติบโตตามตลาดไปด้วยเพื่อรองรับโครงสร้างพื้นฐานให้สอดคล้องควบคู่ไปกับภาคธุรกิจทั้งนี้ ตลาดโทรคมนาคมและภาครัฐเป็นลูกค้าหลักของฮิตาชิและในอนาคตภาคการเงินการธนาคารและประกันภัยฮิตาชิจะเข้าไปแข่งขันด้วยนอกจากนี้ยังจะเกิดธุรกิจใหม่ที่ต้องมีการลงทุนด้านไอทีและสตอเรจสูงอีกคือ มีเดียเอนเตอร์เทนเมนต์โดยเฉพาะการเปลี่ยนผ่านเข้าสู่ยุคทีวีดิจิทัลโดยธุรกิจนี้ต้องการระบบคอมพิวเตอร์และสตอเรจอย่างมหาศาลซึ่งเป็นแนวโน้มของประเทศไทยรวมถึงในภูมิภาคนี้เมื่อมีการกระจายภาพและเสียงไปทั่วประเทศแล้วธุรกิจโทรคมนาคมจะถูกใช้เป็นโครงข่ายในการรับส่งข้อมูลระหว่างสาขาจึงต้องเกิดการขยายตัวตามสุดท้ายภาครัฐจะตามมาเพื่อรองรับโครงสร้างพื้นฐานดังนั้นความต้องการใช้งานสตอเรจเพิ่มขึ้นแน่นอนสำหรับทิศทางการทำธุรกิจของฮิตาชิดาต้า ซิสเต็มส์ ปี 57จะเน้น4โซลูชั่นในเรื่องของ2B2Cเป็นหลักเพื่อตอบสนองความต้องการของธุรกิจได้แก่1.ข้อมูลขนาดใหญ่(BigData)เป็นแนวโน้มสำคัญซึ่งถือว่าเติบโตอย่างรวดเร็วมาก 2.การสร้างความต่อเนื่องทางธุรกิจ(BusinessContinuity)ที่ช่วยให้ธุรกิจสามารถดำเนินการต่อไปได้อย่างต่อเนื่อง 3.โครงสร้างพื้นฐานไอทีแบบบูรณาการ(ConvergedInfrastructure)แพลตฟอร์มที่รวมระบบเซิร์ฟเวอร์ระบบสตอเรจ และ ระบบเครือข่ายเข้าด้วยกัน พร้อมซอฟแวร์ในการบริหารจัดการช่วยให้การติดตั้งและระบบงานทางไอทีเป็นได้อย่างรวดเร็วทำให้สามารถตอบสนองความต้องการทางเชิงธุรกิจได้เร็วกว่าการใช้งานแบบเดิมและ 4.การเพิ่มความคล่องตัวในการทำงานร่วมกัน(Collaborationand Mobility) ช่วยสนับสนุนการทำงานในทุกที่ทุกเวลาทั้งจากอุปกรณ์โน้ตบุ๊กคอมพิวเตอร์มือถือและการทำงานต่างสาขา อาทิเช่น เทคโนโลยีแอพพลิเคชั่นเสมือน(Virtual Application -VAI) เดสก์ท็อปเสมือน(VirtualDesktop -VDI) รวมถึงHitachiData Ingestor (HDI)ที่ช่วยเข้ามาบริหารข้อมูลระหว่างหลากหลายสาขาและส่วนกลางได้อย่างรวดเร็วและ HCPAnywhereที่เป็นสตอเรจแบบคลาวด์ส่วนตัวที่สามารถแชร์ข้อมูลกันภายในองค์กรได้อย่างปลอดภัยลักษณะการทำงานคล้ายดร็อปบอกซ์ที่สามารถทำการย้ายข้อมูลได้ทันทีสำหรับ ผลประกอบการของฮิตาชิดาต้า ซิสเต็มส์ ประเทศไทยในปีที่ผ่านมาธุรกิจเอ็กเทอร์นัลสตอเรจครึ่งปีแรกเติบโตถึง47.7%เมื่อเทียบกับปีที่ผ่านมาสูงกว่าตลาดรวมของไทยที่เติบโต45.6%โดยธุรกิจของเอชดีเอสเฉพาะกลุ่มลูกค้าระดับกลางถึงระดับบนเติบโตเพิ่มขึ้น35%สูงกว่าตลาดรวมที่โต28.1%สาเหตุหลักเนื่องจากภาคธุรกิจเริ่มตื่นตัวกับการลงทุนเพื่อรองรับบิ๊กดาต้าและการทำศูนย์สำรองข้อมูลสำหรับประเทศเพื่อนบ้านอย่างประเทศพม่าที่เพิ่งเปิดประเทศถือเป็นตลาดสำคัญความเติบโตที่ค่อนข้างเร็วโดยในปีนี้ฮิตาชิมีแผนที่จะเข้าไปทำตลาดที่ประเทศพม่ามากขึ้น

ขอขอบคุณแหล่งที่มา : ทีวีดิจิทัล หนุนการใช้งานดาต้นปี 57 พุ่ง

Posts related