นางวิไลวรรณทวิชศรี รองผู้ว่าการด้านสินค้าท่องเที่ยว การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย  (ททท.)  เปิดเผยว่าททท.ได้ประเมินว่าช่วงวันหยุดเทศกาลปีใหม่ ตั้งแต่วันที่ 28ธ.ค.56-1 ม.ค.57 จะมีเงินสะพัดจากการเดินทางท่องเที่ยวถึง 18,000 ล้านบาท  มาจากการท่องเที่ยวภายในประเทศ 16,349ล้านบาท เดินทาง 2.48 ล้านคน เพิ่มขึ้นจากปีก่อนหน้า 5% เนื่องจากรัฐบาลได้ประกาศวันหยุดเพิ่มเร็ว ทำให้คนไทยสามารถวางแผนการเดินทางท่องเที่ยวมากขึ้นตามไปด้วยแม้ว่าปัญหาการเมืองจะยังไม่ชัดเจน แต่ส่วนใหญ่ก็ท่องเที่ยวโดยเลี่ยงเส้นทางดังกล่าว ทั้งนี้นักท่องเที่ยวเลือกเดินทางไปภาคเหนือมากที่สุด 690,000 คน, รองลงมาคือ ภาคตะวันออก เช่น จ.ชลบุรี ระยอง 600,000 คน,ภาคใต้ 300,000 คน, ส่วนผู้ที่เกที่ยวในกทม.อีก 300,000 คน สำหรับนักท่องเที่ยวต่างชาติที่เดินทางมาไทย (อินบาวด์)นั้น คาดว่าจะทำรายได้เข้าประเทศ 2,000 ล้านบาท จากนักท่องเที่ยว 500,000 คน เพิ่มขึ้น 3-5% สะท้อนให้เห็ฯว่า การชุมนุมทางการเมืองไม่มีผลกระทบกับการวางแผนเดินทางมาเที่ยวไทยเท่าใดนักเพราะยังคงมีสายการบิน ทั้งแบบสายการบินตรง (ชาร์เตอร์ไฟล์ท) และสายการบินแห่งชาติต่าง ๆ ก็ยังเดินทางปกติ “แม้ในช่วงฤดูกาลท่องเที่ยว (ไฮซีซั่น) จะมีเหตุการณ์ทางการเมืองเข้ามากระทบทำให้นักท่องเที่ยวต่างชาติลังเลในการตัดสินใจมาไทยบ้าง แต่ส่วนใหญ่จะเข้าใจสถานการณ์และเลือกหลีกเลี่ยงเส้นทางได้โดยในช่วงเคานท์ดาวน์ ททท.และภาคเอกชน ยังคงเดินหน้าจัดกิจกรรมต่าง ๆ ตามปกติเหมือนปีที่ผ่านมา” ด้านนายสัมพันธ์แป้นพัฒน์ ที่ปรึกษากิตติมศักด์สมาคมโรงแรมไทย กล่าวว่าอัตราการจองห้องพักในช่วงวันหยุดปีใหม่มี 70% ลดลงจากปีที่แล้ว 2% โดยเป็นนักท่องเที่ยวต่างชาติ 20%คนไทย 80% สำหรับแหล่งท่องเที่ยวที่นักท่องเที่ยวนิยมยังคงเป็นแบบกระจายไปตามภาคต่าง ๆ และหลีกเลี่ยงการเดินทางกทม. เนื่องจากยังมีปัญหาเรื่องการชุมนุมทางการเมือง นายยุทธชัย สุนทรรัตนเวช นายกสมาคมธุรกิจท่องเที่ยวภายในประเทศ(สทน.) กล่าวว่า ขณะนี้ภาคเอกชนเริ่มคลายความกังวลและมองว่ากระแสท่องเที่ยวในประเทศเริ่มกลับมา ดังนั้นช่วงวันหยุดเทศกาลปีใหม่ประเมินว่าจะมีรายได้จากการท่องเที่ยวในประเทศแบบกรุ๊ปทัวร์ 8,000 ล้านบาท เป็นรายได้จาก ภาคเหนือสัดส่วน 30% ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ20% ภาคตะวันออก 18% ภาคกลาง 17% และภาคใต้15% โดยแหล่งท่องเที่ยวที่ได้รับความนิยมยังคงเป็น  เชียงใหม่ เชียงราย แม่ฮองสอน ลำปาง รองลงมาคือภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ได้แก่ นครพนม หนองคาย และนครราชสีมา พล.ต.ต.อภิชัย ธิอามาตย์ผู้บังคับการตำรวจท่องเที่ยว กล่าวว่า ช่วงปีใหม่จะระดมปล่อยขบวนรถตำรวจท่องเที่ยวเสริมกำลังพิเศษตั้งแต่ช่วง 24 ธ.ค.56– 2 ม.ค.57เข้าไปยังแหล่งท่องเที่ยวที่มีคนเดินทางหนาแน่นคือ กรุงเทพฯ เชียงใหม่ พัทยาหาดใหญ่ ภูเก็ต โดยจะให้ความสำคัญกับพื้นที่พัทยาเป็นพิเศษเนื่องจากเป็นจุดหมายที่นิยมทั้งชาวไทยและต่างชาติและที่ผ่านมามีความเสี่ยงในการเกิดปัญหาอาชญกรรมสูงสุดโดยจะเข้มงวดในการสอดส่องกวาดล้างการค้าประเวณีริมชายหาดที่ทำให้เกิดความเสื่อมเสียด้านชื่อเสียงของการท่องเที่ยวมาก สำหรับช่วงปีใหม่ททท.เตรียมจัดกิจกรรมส่งท้ายใน 5 ภูมิภาค 13 จังหวัด แบ่งเป็น 1.ภาคกลาง ได้แก่กรุงเทพฯ จัดงานส่งท้ายปีเก่าต้อนรับปีใหม่ที่แยกเพลินจิต-ราชประสงค์-ปทุมวันและไหว้พระ 9 วัดสัมผัสวิถีแห่งบุญ, อยุธยา จัดโครงการตามรอยศรัทธามหากุศล สวดมนต์ข้ามปี วิถีไทย วิถีพุทธ2.ภาคเหนือ จัดงานเคาท์ดาวน์ ที่ เชียงใหม่ เชียงราย น่าน อุตรดิตถ์, งานสวดมนต์ข้ามปีที่ แพร่3.ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ จัดงานเคาท์ดาวน์ที่ ขอนแก่นและงานนับถอยหลังพร้อมสวดมนต์ข้ามปีที่ นครพนม 4.ภาคตะวันออกมีศูนย์กลางจัดงานเคาท์ดาวน์ที่ พัทยา 5.ภาคใต้ จัดงานเคาท์ดาวน์หาดใหญ่ (สงขลา), ภูเก็ต, สตูล, ตรัง  

ขอขอบคุณแหล่งที่มา : ท่องเที่ยวปีใหม่เงินสะพัด1.8 หมื่นล้านบาท

Posts related