นายจิรเทพ เสนีวงศ์ ณ อยุธยาโฆษกธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) เปิดเผยว่า ธปท.คาดการณ์ว่าปีนี้ เศรษฐกิจไทยยังคงเกินดุลบัญชีเดินสะพัดแน่นอนแต่หากจะขาดดุลบัญชีเดินสะพัด ที่เกิดจากการลงทุน ก็ยอมรับว่าเป็นสิ่งที่ดีต่อประเทศเนื่องจากเป็นการเพิ่มศักยภาพของเศรษฐกิจ แต่หากขาดทุนจากการนำเข้าน้ำมันเพิ่มขึ้นคงต้องมาติดตามว่ามีการประหยัดพลังงานน้อยเกินไปหรือไม่   “หากขาดดุลบัญชีเดินสะพัดจากการลงทุนเชื่อว่าไม่น่าห่วง แต่สถานการณ์ตอนนี้ คาดการณ์ไว้ว่าปีนี้ยังคงเกินดุลบัญชีเดินสะพัดอยู่ซึ่งธปท.ไม่อยากให้ใจร้อน ต้องการให้เศรษฐกิจฟื้นแบบค่อยเป็นค่อยไปดีกว่า”   นายจิรเทพกล่าวว่า ส่วนกรณีที่ธนาคารกลางสหภาพยุโรป (อีซีบี) ลดดอกเบี้ยลงเหลือ 0.5% ต่อปี คาดว่าเพราะไม่ต้องการให้มีการคาดการณ์เรื่องเงินเฟ้อที่ลดต่ำลงจากเดือนก.ค.ที่ 0.4% เหลือ 0.3%ในปัจจุบัน ซึ่งสะท้อนว่าการฟื้นตัวทางเศรษฐกิจยังไม่เข้มแข็ง แต่ยืนยันว่าธปท.ไม่ได้ห่วงการฟื้นตัวของเศรษฐกิจยุโรปเพราะการฟื้นตัวทางเศรษฐกิจของแต่ละประเทศมีความแตกต่างกัน แต่อาจจะส่งผลกระทบต่อกระแสเงินทุนเคลื่อนย้ายที่อ่อนไหวต่อข่าวสาร ซึ่งจะต้องระมัดระวังความเสี่ยงจากอัตราแลกเปลี่ยนด้วยแต่เท่าที่ติดตามดู เห็นว่าด้านเงินบาทไทยนั้น ยังมีเสถียรภาพ และธปท.มีเครื่องมือที่เหมาะสมในการดูแลเพื่อรองรับความผันผวนที่จะเกิดขึ้นด้วย   สำหรับกรณีที่สำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.) อนุญาตให้ธนาคารพาณิชย์ออกและเสนอขายตราสารทางการเงิน ที่นำมาคำนวณเป็นเงินกองทุนชั้นที่ 2 ตามแนวทางของบาเซิล 3 นั้น ขณะนี้มีธนาคารพาณิชย์ 5 แห่ง สนใจที่จะออกตราสารทางการเงินดังกล่าวแล้วซึ่งมีเงื่อนไขบังคับแปลงสภาพเป็นหุ้นสามัญ และกำหนดราคาแปลงสภาพขั้นต่ำให้แก่ผู้ลงทุนทั่วไปและอนุญาตให้กองทุนรวมทุกประเภท ยกเว้นกองทุนรวมตลาดเงิน ลงทุนในตราสารนี้ได้ ในสัดส่วนที่กำหนดเพื่อเพิ่มทางเลือกในการลงทุน และช่วยเสริมสร้างความเข้มแข็งของระบบการเงิน ซึ่งเชื่อว่าจะช่วยส่งเสริมให้สถาบันการเงินมีทุนที่เข้มแข็งมากขึ้น เพื่อกันสำรองไว้ กรณีที่ประสบปัญหาการดำเนินงาน 

ขอขอบคุณแหล่งที่มา : ธปท.มั่นใจปีนี้ยังเกินดุลบัญชีเดินสะพัด

Posts related