นางรุ่ง โปษยานนท์ มัลลิกะมาส ผู้อำนวยการสำนักเศรษฐกิจมหภาค ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) เปิดเผยว่า ขณะนี้ มีความเป็นไปได้ที่ภาวะเศรษฐกิจไทย ไตรมาส 4 ปี 56 จะไม่ขยายตัวได้ตามเป้าหมายที่ตั้งไว้ และอาจส่งผลให้อัตราการขยายตัวทั้งปี ลดลงกว่าที่คาดการณ์อยู่ที่ 3.7% เนื่องจากสถานการณ์ทางการเมืองที่ล่าสุดมีความตึงเครียดมากขึ้น ส่งผลกระทบต่อกิจกรรมทางเศรษฐกิจในหลายพื้นที่ รวมถึงกระทบต่อแนวโน้มความเชื่อมั่นต่อผู้บริโภคและนักธุรกิจให้ชะลอลงบ้าง ส่วนแนวโน้มภาวะเศรษฐกิจไทยในปี 57 คาดว่าจะขยายตัวได้ 4.8% ซึ่งเชื่อว่ามีปัจจัยจากการใช้จ่ายของภาครัฐเข้ามาเป็นปัจจัยขับเคลื่อน นายกิตติรัตน์ ณ ระนอง รองนายกรัฐมนตรีและ รมว.คลัง กล่าวว่า ปัญหาความขัดแย้งทางการเมืองที่เกิดขึ้นในปัจจุบัน อาจมีผลกระทบต่อเศรษฐกิจในระยะสั้น โดยเฉพาะในช่วงไตรมาส 4 ของปีนี้ ซึ่งเชื่อว่าการเมืองจะไม่รุนแรง เพราะเป็นการชุมนุมตามระบอบประชาธิปไตย ยกเว้นไม่ได้มีการประชุมในระบบประชาธิปไตยอาจมีผลต่อความเชื่อมั่นของนักลงทุน นักท่องเที่ยว และส่งผลกระทบต่อเศรษฐกิจได้ “ในช่วงทศตวรรษที่ผ่านมาการเติบโตเศรษฐกิจไทยขยายตัว 4-5% นั้น มาจากตัวเลขการส่งออกที่ขยายตัว 2 หลักมาโดยตลอด แต่ปัจจุบันปัญหาเศรษฐกิจโลกทำให้การส่งออกไม่ใช่เป็นตัวขับเคลื่อนให้เศรษฐกิจเพียงตัวเดียวแล้ว แต่ยังมีกลจักรอีก 3 ตัวคือการใช้จ่ายภาครัฐ การอุปโภคบริโภคในประเทศ และการลงทุนของภาคเอกชน นอกจากนี้เห็นว่าปัญหาการเมืองจะไม่ทำให้การลงทุนโครงสร้าง 2 ล้านล้านบาทได้รับผลกระทบ เพราะโครงการไม่ได้เกิดขึ้นในปีนี้หรือปี 57 แต่จะเริ่มในปี 58” นายอัทธิ์ พิศาลวานิช ผู้อำนวยการศูนย์ศึกษาการค้าระหว่างประเทศ มหาวิทยาลัยหอการค้าไทย กล่าวว่า ขณะนี้การยุบสภาผู้แทนราษฎรสามารถแก้ปัญหาเรื่องของความวุ่นวายทางการเมืองไทยได้ในระยะสั้น ๆ แต่ไม่สามารถแก้ระยะยาวได้ ดังนั้นหากให้บรรยากาศดีขึ้นนายกรัฐมนตรีต้องออกมาแถลงความชัดเจนเพื่อแสดงความเชื่อมั่นแก่ประชาชน ก็น่าจะดีกว่าการยุบสภาฯ

ขอขอบคุณแหล่งที่มา : ธปท.ห่วงจีดีพีไทยทั้งปีโตไม่ถึง 3.7%

Posts related