นายเกรียงไกร กาญจนะโภคิน ประธานเจ้าหน้าที่บริหารร่วม บริษัท อินเด็กซ์ ครีเอทีฟ วิลเลจ จำกัด (มหาชน) ผู้ดำเนินธุรกิจอีเว้นท์ เปิดเผยว่า ขณะนี้เริ่มเห็นสัญญาณการฟื้นตัวของการจัดงานอีเว้นท์ในประเทศ จากลูกค้าชาวไทยมากขึ้น โดยเฉพาะงานเกี่ยวกับสินค้าอุปโภคและบริโภค ที่กลับมาจ้างงานอย่างคึกคัก หลังจากจัดตั้งรัฐบาลชุดใหม่ เนื่องจากบรรยากาศในประเทศเริ่มคลี่คลายไปในทิศทางที่ดีขึ้น ทำให้ประชาชนเริ่มกลับมาใช้ชีวิตและจับจ่ายดังเดิม บริษัทที่จำหน่ายสินค้าจึงมั่นใจ และพร้อมเดินหน้าทำแผนการตลาดอย่างเข้มข้นขณะที่งานของลูกค้าที่เป็นบริษัทข้ามชาติ ซึ่งถือเป็นรายได้หลัก หรือกว่า 80% ของบริษัท ยังคงไม่มีงานใด ๆ หลังจากยกเลิกงานกิจกรรมต่าง ๆ ในช่วงที่ผ่านมา เนื่องจากนักลงทุนต่างชาติค่อนข้างกังวลกับการประกาศใช้กฏอัยกาศศึก โดยกลุ่มประเทศในยุโรป อเมริกาและญี่ปุ่นมีความอ่อนไหวมากที่สุด“งานจากต่างชาติตอนนี้ ไม่ค่อยหวังแล้ว เพราะลูกค้ายังไม่มั่นใจในสถานการณ์ ส่วนงานของคนไทยตั้งแต่ไตรมาส 3 งานก็เริ่มกลับมาอย่างชัดเจน เพราะหลายงานถูกอั้นไว้ตั้งแต่ต้นปี ประกอบกับใกล้จะถึงสิ้นปี ซึ่งเป็นช่วงเทศกาลจับจ่าย บริษัทต่าง ๆ จึงต้องเร่งออกมากระตุ้นการใช้จ่าย ยกเว้นในกลุ่มรถยนต์ที่เงียบเหงามาเกือบ 2 ปีแล้ว แต่ถึงอย่างไร การฟื้นตัวแค่ไตรมาสเดียว ก็ไม่สามารถกระตุ้นรายได้รวมทั้งบริษัทให้โตได้ อย่างดีที่สุดก็น่าจะทรงตัวเท่าปีก่อนที่ 2,000 ล้านบาท หรือ ติดลบน้อยกว่าขณะนี้ที่ติดลบ20%”ด้านภาพรวมธุรกิจอีเว้นของประเทศไทยในช่วง 2 ปีที่ผ่านมาอยู่ในช่วงขาลง เพราะประสบกับวิกฤตการเมืองและเศรษฐกิจส่งผลให้ตลาดเติบโตติดลบ 20% จากที่เคยเติบโต 10% โดยคาดว่าในสิ้นปีตลาดรวมธุรกิจอีเว้นท์จะมีมูลค่า 10,800 ล้านบาท จากปีที่ผ่านมาที่ตลาดมีมูลค่ 13,500 ล้านบาทอย่างไรก็ดี ในอนาคต บริษัทจะเร่งสร้างรายได้ในต่างประเทศมากขึ้น เพื่อชดเชยรายได้ที่สูญเสียจากธุรกิจในประเทศ เพราะช่วงที่ผ่านมาตลาดเติบโตดีมากกว่า 30% เนื่องจากเป็นตลาดที่ใหญ่ ประกอบกับบริษัทเข้าไปลงทุนในประเทศที่ยังมีการแข่นไม่รุนแรง ได้แก่ประเทศเมียนมาร์,เวียดนาม และมาเลเซีย ทำให้ธุรกิจเดินหน้าได้ดี พร้อมทั้งตั้งเป้าหมายภายในปีหน้าจะผลักดันสัดส่วนรายได้ต่างประเทศจาก 5% เป็น 10% ให้ได้สำหรับการขยายธุรกิจนั้น บริษัทจะให้ความสำคัญกับประเทศที่เข้าไปลงทุนแล้วก่อน ด้วยการเริ่มต้นดำเนินธุรกิจใหม่ เช่นการจัดงานแสดงสินค้าในกลุ่มอาหาร และเครื่องดื่ม,สินค้าเพื่อการตกแต่งที่พักอาศัย และสินค้าเพื่อธุรกิจสุขภาพ และโรงแรม จากเดิมที่ทำเพียงธุรกิจอีเว้นท์ เพราะเป็นธุรกิจที่เติบโตดีมากโดยเฉพาะในเมียนมาร์ ที่อยู่ในช่วงพัฒนาประเทศ

ขอขอบคุณแหล่งที่มา : ธุรกิจอีเว้นท์ฟื้นรับรัฐบาลใหม่

Posts related