นางศุภวรรณ ตีระรัตน์ รองผู้อำนวยการสายงานด้านบริหารและสนับสนุนกลยุทธ์ สำนักงานส่งเสริมการจัดประชุมและนิทรรศการ (สสปน.) เปิดเผยว่า การชุมนุมทางการเมืองที่ยืดเยื้อนั้น มีผลทำให้รายได้จากอุตสาหกรรมการประชุมและนิทรรศการ(ไมซ์) ตั้งแต่เดือนม.ค.-มี.ค.หายไปแล้ว 1,000 ล้านบาท และงานต่าง ๆ ที่จะเข้ามาจัด ก็ยกเลิกไปแล้วกว่า 30 งาน เนื่องจากสถานการณ์ที่มีภาพความรุนแรงขึ้น ทำให้กลุ่มนักธุรกิจไม่มั่นใจที่จะมาจัดงาน ดังนั้นเดือนมิ.ย.นี้ จะพิจารณาปรับเป้าหมายปี 57 ทั้งรายได้และจำนวนงานอีกครั้ง โดยคาดการณ์ว่ารายได้และนักท่องเที่ยวจะหายไป 10% อย่างไรก็ตามประเทศที่ได้รับอานิสงค์จากความขัดแย้งในครั้งนี้ได้แก่ สิงค์โปร และมาเลเซีย ที่ผู้จัดงานเลือกไปจัดแทน ทำให้ไทยต้องสูญเสียโอกาสและรายได้ไป ส่วนการจัดงานเทรดโชว์ในต่างประเทศทั้ง 9 แห่ง ยังยืนยันจัดเหมือนเดิม ได้แก่ ออสเตรเลีย แฟรงก์เฟิร์ต จีน สเปน ลอนดอน สหรัฐอเมริกา และญี่ปุ่น นายศิษฎิวัชร ชีวรัตนพร นายกสมาคมไทยธุรกิจการท่องเที่ยว (แอตต้า) กล่าวว่า ขณะนี้ตัวเลขของนักท่องเที่ยวต่างชาติที่เดินทางมาไทย(อินบาวด์) ลดลงถึง 30% จึงมองว่าการที่การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) จะยืนยันเป้าหมายเดิมไว้ และเร่งทำตลาดดึงนักท่องเที่ยวไตรมาส 3และ4 แทนนั้น เป็นไปได้ยาก เนื่องจากไตรมาส 3 จะมีนักท่องเที่ยวจากยุโรปที่นิยมมาเท่านั้น ส่วนไตรมาส 4 ที่จะมีนักท่องเที่ยว ทั้งจากยุโรปและเอเชียเข้ามามากที่สุด แต่ไทยคงไม่สามารถรองรับนักท่องเที่ยวเพิ่มได้แล้ว เพราะแหล่งท่องเที่ยวหลักแออัด และข้อจำกัดของสนามบิน ที่รองรับนักท่องเที่ยวได้จำกัด “ขณะนี้ สิ่งที่ทำได้ คือหวังให้สถานการณ์การเมืองสิ้นสุดโดยเร็ว แต่ไม่รู้ว่าเมื่อใด เอกชนขณะนี้ต่างก็เร่งหากลยุทธ์เสริมด้านการตลาดกันเอง เช่น จัดแฟมมิลี่ทริป ชมสถานที่ท่องเที่ยวใหม่ ๆ เพราะหากไม่ทำอะไรเลย แนวโน้มว่าการเปลี่ยนแหล่งท่องเที่ยวไปเป็นที่อื่นๆ เช่น จากที่รัสเซียนิยมไป มาเลเซีย และเวียดนาม แต่ต้องมาที่ไทยก่อน เมื่อมีเหตุการณ์การเมือง ก็ตัดไทยทิ้งไปเลย” สำหรับตัวเลขนักท่องเที่ยวของแอตต้าตั้งแต่ เดือนวันที่ 1 ม.ค.-20ก.พ.พบว่า 5 อันดับแรกนักท่องเที่ยวลดลงทุกตลาด โดยอันดับ 1 รัสเซีย 122,523 คน ลดลง 11% รองลงมาคือ จีน 78,203 ลดลง 61.06% ญี่ปุ่น 19,694 ลดลง 59% เกาหลีใต้ 14,703 คนลดลง 56.41% และอินเดีย 12,200 คน ลดลง 49.85%

ขอขอบคุณแหล่งที่มา : นักลงทุนงดจัดงานในไทยสูญแล้วกว่าพันล้าน

Posts related