หลังจากเมื่อวานนี้ (18 มีนาคม 2557)  ไลน์ หรือ LINE ผู้ให้บริการแอพพลิเคชั่นแชตจากญี่ปุ่นที่มีจำนวนผู้ใช้งานมากที่สุดในประเทศไทยได้เปิดให้บริการโทรศัพท์เข้าเบอร์พื้นฐาน(เบอร์บ้าน) และเบอร์โทรศัพท์มือถือราคาถูกภายใต้ชื่อบริการไลน์ คอลล์  (LINE Call)       ซึ่งในช่วงแรกระบบจะเปิดใช้งานสำหรับผู้ใช้ไลน์ บนระบบปฏิบัติการแอนดรอยด์เท่านั้น วันนี้ (19 มีนาคม 2557)  นายธีระ กนกกาญจนรัตน์นักวิเคราะห์อาวุโสจากบริษัท ฟรอสต์ แอนด์ ซัลลิแวนองค์กรให้คำปรึกษาและวิจัยระดับโลก ได้ให้ความเห็นในเรื่องนี้ว่า  เมื่อมองดูกลยุทธ์ของLINE แล้วจะเห็นว่าการเปิดให้บริการ LINECall นั้นไม่ได้เป็นเรื่องที่น่าแปลกใจเนื่องจากเป็นตลาดที่มีมูลค่ามหาศาล โดยในปี 2555 ผู้นำตลาด Internetcalling อย่าง Skype นั้นสามารถทำรายได้มากกว่า700 ล้านเหรียญสหรัฐ และการที่ประเทศไทยได้รับเลือกให้เป็นหนึ่งใน 8ประเทศเริ่มต้นก็ไม่ใช่เรื่องแปลก เพราะประเทศไทยมีจำนวนผู้ใช้ LINE มากเป็นอันดับสองของโลกเป็นรองแค่ญี่ปุ่นเท่านั้น ในขณะที่ผู้บริโภคชาวไทยได้รับประโยชน์จากทางเลือกติดต่อสื่อสารที่มีราคาถูกลงและสะดวกสบายมากขึ้นนั้น    LINE Call กลับเป็นหนึ่งในสัญญาณที่บ่งชัดถึงกระแสความเปลี่ยนแปลงที่เกิดขึ้นในอุตสาหกรรมเทคโนโลยีสื่อสารในประเทศไทย“รูปแบบการใช้งานบริการข้อมูลหรือ DataService บนโทรศัพท์ไร้สายที่มีความหลากหลายและได้รับความนิยมมากขึ้นนั้น   เป็นสัญญาณของทั้งวิกฤติและโอกาสที่มีผลกระทบต่อผู้ให้บริการโทรศัพท์เคลื่อนที่และโทรศัพท์พื้นฐานว่า ต้องมีการปรับตัวเพื่อตอบสนองความเปลี่ยนแปลงในตลาดผู้บริโภค    ถึงแม้ว่า LINE call จะเป็นหนึ่งในช่องทางที่เพิ่มรายได้ให้กับผู้ประกอบการโครงข่ายโทรคมนาคมสื่อสารในประเทศจากส่วนแบ่งของค่าบริการเชื่อมต่อหรือConnection fee      แต่ก็ส่งผลกระทบต่อรายได้ที่มาจากการใช้งานประเภทโทรผ่านโครงข่ายโทรศัพท์ซึ่งเป็นรายได้หลักของผู้ให้บริการตลอดมา”ผลสำรวจของฟรอสต์ แอนด์ ซัลลิแวนพบว่า ในปี2556 ที่ผ่านมา รายได้รวมจากการให้บริการโทรศัพท์ในระบบเสียงของผู้ให้บริการโครงข่ายโทรศัพท์เคลื่อนที่นั้นโดยเฉลี่ยหดตัวลง3.7% ในขณะที่รายได้จากการใช้ข้อมูลขยายตัวขึ้นถึง 26% เมื่อเทียบกับปี 2555ในส่วนของผู้ใช้บริการ พบว่ามีผู้ใช้บริการโทรศัพท์เคลื่อนที่ระบบจ่ายเงินล่วงหน้าหรือPre-paid เพิ่มขึ้นโดยเฉลี่ย 11.9%ในขณะที่ผู้ใช้งานในระบบ Post-paid นั้นเพิ่มขึ้นถึง 27.8% จากปี 2555 แนวโน้มการเปลี่ยนแปลงทางโครงสร้างรายได้ของผู้ให้บริการนั้นเป็นเทรนด์ที่เห็นได้จากประเทศอื่นๆในภูมิภาคเอเซียเช่นกัน  เช่น บริษัท NTT Docomo ผู้ให้บริการโครงข่ายโทรศัพท์ยักษ์ใหญ่ของญี่ปุ่นพบว่ารายได้เฉลี่ยจากการใช้งานโทรศัพท์ของผู้ใช้แต่ละคนลดลงถึง 40% ในช่วง 2 ปีที่ LINEเริ่มเปิดให้บริการ Voice Call นอกจากนี้  ในปี 2554 บริษัท SingTel ผู้ให้บริการรายใหญ่ในสิงคโปร์ก็ประสบปัญหาการเปลี่ยนแปลงของรายได้จากความนิยมของWeChat แอพพลิเคชั่น“สิ่งที่เราได้เห็นคือเหล่าผู้ให้บริการมีความตื่นตัวและปรับโครงสร้างรายได้โดยให้ความสำคัญกับการสร้างรายได้จากบริการเสริม(OTT) และบริการเพิ่มมูลค่า Value AddedService (VAS) อื่นๆมากขึ้น รวมถึงการลงทุนในกลุ่มธุรกิจ Startup เพื่อหาแหล่งรายได้ใหม่ๆทั้งจากภายในและภายนอกกรอบอุตสาหกรรมโทรคมนาคม”นายธีระ สรุปว่า ตลาดประเทศไทยตัวแปรสำคัญสำหรับเหล่าผู้ให้บริการคือความพร้อมของระบบโครงข่าย 4G LTE ที่จะเปิดโอกาสทางธุรกิจให้กับรายได้จากบริการOTT และ VAS อีกเป็นจำนวนมากส่วนผลตอบรับและผลกระทบจากบริการ LINE Call นั้นยังคงต้องดูกันต่อไปเนื่องจากคุณภาพและความเสถียรของการสื่อสารยังเป็นปัจจัยสำคัญในการตัดสินผู้นำการให้บริการในตลาด   

ขอขอบคุณแหล่งที่มา : บริการไลน์คอลล์ ส่งสัญญาณให้เครือข่ายมือถือเร่งปรับตัว

Posts related