รายงานข่าวจากกระทรวงการคลัง เปิดเผยว่า สิทธิประโยชน์ของคณะกรรมการธนาคารเฉพาะกิจของรัฐ (แบงก์รัฐ) ที่ส่งมาให้กระทรวงการคลังพิจารณาก่อนจะเสนอให้คณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) พิจารณาเห็นชอบ พบว่าที่ผ่านมาคณะกรรมการได้เบิกจ่ายเงินพิเศษที่เกี่ยวเนื่องกับกิจการของธนาคาร หรือ ที่เรียกกันว่าค่ารับรองในจำนวนเงินที่ค่อนข้างสูงมาก ซึ่งการเบิกเงินพิเศษดังกล่าว รวมทั้งการเบิกค่าเรื่องรับรองลูกค้า ซึ่งบางครั้งรวมถึงค่าใช้จ่ายตีกอล์ฟกับลูกค้าด้วย รวมทั้ง ยังมีค่าเดินทางไปต่างประเทศ และในประเทศ ในชั้นหนึ่ง โดยอ้างว่าไปดูงานที่เกี่ยวกับกิจการของธนาคาร ซึ่งไม่มีการจำกัดการเดินทาง สามารถไปได้เท่าที่คณะกรรมการต้องการและเห็นชอบ ทั้งนี้ พบว่า ธนาคารออมสิน และธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร (ธ.ก.ส.) อยู่ในระดับสูง ซึ่งในบางเดือนประธานกรรมการ หรือ กรรมการบางคน มีการเบิกค่ารับรองพิเศษเดือนหนึ่งสูงถึง 300,000-400,000 บาท รองลงมาคือ ธนาคารอาคารสงเคราะห์ (ธอส.) ธนาคารพัฒนาวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อมแห่งประเทศไทย (ธพว.) และ ธนาคารอิสลามแห่งประเทศไทย (ธอท.) “แบงก์รัฐหลายแห่งไม่ได้จำกัดเพดานที่กรรมการเบิกค่ารับรอบพิเศษ บางธนาคารให้บัครดิตกรรมการใช้จ่ายแทนเงินสด ซึ่งรายจ่ายทั้งหมดไม่ได้ถูกบันทึกเป็นผลตอบแทนของกรรมการ แต่ถูกบันทึกว่าเป็นรายจ่ายของธนาคาร” อย่างไรก็ตาม การเบิกจ่ายค่ารับรองของกรรมการแบงก์รัฐ เมื่อเทียบมูลค่าแล้วถึอว่าไม่น้อยว่าตั๋วฟรีที่กรรมการบริษัทการบินไทยได้รับ และ คสช. ได้ตัดสิทธิดังกล่าวไป คาดว่า คสช. จะพิจารณาตัดสิทธิการเบิกจ่ายของกรรมการให้ต่ำกว่าที่เป็นอยู่ในปัจจุบัน เพื่อลดค่าใช้จ่ายของรัฐบาล ก่อนหน้านี้ นายรังสรรค์ ศรีวรศาสตร์ ปลัดกระทรวงการคลัง กล่าวว่า พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ผู้บัญชาการทหารบาก ในฐานะคณะกรรมการคณะกรรมการนโยบายและกำกับดูแลรัฐวิสาหกิจ “ซุปเปอร์บอร์ด” นัดประชุมคณะกรรมการทั้ง 17 คนในวันที่ 9 ก.ค.นี้ ที่กองทัพบก โดยในการประชุมครั้งแรกจะมีการกำหนดนโยบายร่วมกันในการบริหารงานรัฐวิสาหกิจ ส่วนการแต่งตั้งบอร์ดรัฐวิสาหกิจที่ว่างอยู่ ขณะนี้สำนักงานนโยบายรัฐวิสาหกิจ (สคร.) กำลังเร่งแต่งตั้งให้ครบ พร้อมทั้งให้มีการสรรหาผู้บริหารสุดสุดในหลายแห่งที่ยังอยู่ให้ได้โดยเร็ว  

ขอขอบคุณแหล่งที่มา : บอร์ดแบงก์รัฐมือเติบ

Posts related