นายมนัส แจ่มเวหา อธิบดีกรมบัญชีกลาง เปิดเผยว่า ขณะนี้มีโครงการลงทุนที่อยู่ระหว่างการเบิกจ่ายงบประมาณ 55,000 ล้านบาท โดยที่ผ่านมาได้ส่งหนังสือเวียนไปยังกระทรวงและส่วนราชการต่าง ๆ เพื่อซักซ้อมและทำความเข้าใจเกี่ยวกับการเบิกจ่ายงบลงทุน ปี 57 เนื่องจากก่อนหน้านี้รัฐมนตรีของกระทรวงต่าง ๆ ไม่กล้าลงนามอนุมัติการเบิกจ่าย เพราะกังวลว่าจะผิดกฎหมายรัฐบาลธรรมนูญ หลังจากรัฐบาลประกาศยุบสภา เมื่อวันที่ 9 ธ.ค.ที่ผ่านมา ส่วนโครงการลงทุนที่มีขนาดเกินกว่า 1,000 ล้านบาท ยังไม่สามารถดำเนินการก่อหนี้ผูกพัน และเบิกจ่ายงบลงทุนได้ 7,330 ล้านบาท เนื่องจากอยู่ในช่วงรัฐบาลรักษาการ ทำให้ไม่มีอำนาจในการอนุมัติโครงการที่ยังค้างอยู่ดังกล่าวได้“ก่อนหน้าที่กรมบัญชีกลางจะออกหนังสือเวียนเพื่อซักซ้อมทำความเข้าใจกับส่วนราชการทั้งหมดนั้น มีงบลงทุนที่ค้างท่อรอการลงนามจ่ายอยู่ทั้งหมด 130,000 ล้านบาท แต่เมื่อได้ส่งหนังสือเวียนออกไปก็ทำให้สถานการณ์ต่าง ๆ ดีขึ้น จนวงเงินลดลงมาอยู่ที่ 55,000 ล้านบาท โดยยอมรับว่ามีโครงการลงทุนขนาดใหญ่ที่เกิน 1,000 ล้านบาท อยู่จำนวนมากที่ไม่สามารถดำเนินการได้ เพราะตามหลักการต้องนำเรื่องเข้าที่ประชุมครม. เพื่อขอความเห็นชอบก่อน แต่เมื่ออยู่ในรัฐบาลรักษาการก็คงดำเนินการไม่ได้”ทั้งนี้ ยอมรับว่าการจัดทำงบประมาณปี 58 อาจมีความล่าช้า เนื่องจากยังไม่มีรัฐบาลใหม่ที่เข้ามาดำเนินการ แต่เชื่อว่าจะไม่ส่งผลกระทบต่อการบริหารจัดการงบในภาพรวม โดยเฉพาะในส่วนของการเบิกจ่ายงบรายจ่ายประจำ เนื่องจากสามารถใช้งบประมาณปีเก่าไปพลางก่อนได้ แต่จะมีปัญหาในส่วนของงบลงทุน ที่ไม่สามารถเบิกจ่ายในโครงการใหม่ ๆ ได้ ส่วนงบลงทุนในโครงการที่มีการก่อหนี้ผูกพันไว้แล้ว ยังเดินหน้าได้ตามปกติ

ขอขอบคุณแหล่งที่มา : บัญชีกลางเผยมีงบลงทุนค้างท่อ 7.3 พันล้านบาท

Posts related