นายชัชชาติ สิทธิพันธุ์ รมว.คมนาคม เปิดเผยกรณีมีกระแสข่าวบริษัท การบินไทย จำกัด (มหาชน) จะล้มละลาย ว่า ไม่เป็นความจริง เนื่องจากปัจจุบันมีคณะกรรมการบริษัทการบินไทยกำกับดูแลอย่างใกล้ชิด ไม่ต้องการให้ทุกคนนำเรื่องนี้มาพูดต่อๆ กัน เนื่องจากการบินไทยเป็นบริษัทในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (ตลท.) อาจส่งผลกระทบต่อผู้ถือหุ้น ซึ่งเป็นประชาชนจำนวนมากได้ ส่วนกระแสข่าวว่ามีนักการเมืองเข้ามาซื้อหุ้นนั้นเป็นแค่ข่าวลือที่ไม่มีมูลความจริงแต่อย่างใด ส่วนข่าวที่ว่าพนักงานเริ่มหยุดงานและลาออก เพราะไม่พอใจฝ่ายนโยบายของการบินไทยนั้นยืนยันว่าไม่เป็นความจริงเช่นกัน ขณะที่การนักบินลาออกก็เป็นสิทธิ์ที่ทำได้ เพราะตอนนี้ธุรกิจก็แข่งขันกันสูง จึงมีการแย่งบุคลากรเป็นธรรมดา  นายโชคชัย ปัญญายงค์ รักษาการกรรมการผู้อำนวยการใหญ่ บริษัท การบินไทย  กล่าวว่า ข่าวการบินไทยล้มละลายไม่เป็นความจริง เพราะกระทรวงการคลังถือหุ้นใหญ่ 51% และมีกฎระเบียบที่ไม่สามารถปรับลดสัดส่วนหุ้นลงได้ และหากใครที่จะเข้ามาเป็นเจ้าของ ก็ต้องซื้อหุ้นในตลาดหลักทรัพย์ ซึ่งจะไม่เป็นผู้ถือหุ้นใหญ่  “การบินไทยไม่มีโอกาสเข้าข่ายล้มละลาย เพราะการล้มละลายต้องเกิดจากสภาพที่ไม่สามารถชำระหนี้ได้ และตั้งแต่ก่อตั้งการบินไทยไม่เคยผิดนัดชำระหนี้แม้แต่ครั้งเดียว แม้ว่าปีที่ผ่านมาจะมีผลประกอบการไม่ดี เพราะมีการลงทุนปรับปรุงฝูงบินเพื่อเพิ่มศักยภาพในการแข่งขันและขยายการผลิตเพื่อสร้างความพึงพอใจให้แก่ผู้โดยสาร แต่การบินไทยได้เตรียมแผนชำระหนี้และการรักษาสภาพคล่องทางการเงินไว้เป็นอย่างดี” นอกจากนี้ เมื่อพิจารณาตัวเลขทางการเงิน ณ สิ้นไตรมาส 3 ของปี 56 การบินไทยมีสินทรัพย์ส่วนใหญ่เป็นเครื่องบิน มูลค่า 315,923 ล้านบาท สูงกว่าหนี้สินที่มีภาระดอกเบี้ย183,489 ล้านบาท ยังไม่รวมภาระค่าใช้จ่ายในการเช่าเครื่องบินอีก 20 ลำ ซึ่งมีการวางแผนทางการเงินเป็นอย่างดีและมีสภาพคล่องที่เพียงพอ  ส่วนปัญหาเที่ยวบินล่าช้าเมื่อวันที่ 5 ม.ค. ที่ผ่านมา เนื่องจากมีปัญหาขาดแคลนแรงงานที่ว่าจ้างจากภายนอก ส่วนใหญ่เป็นเจ้าหน้าที่ที่ปฏิบัติงานในท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ ส่งผลทำเที่ยวบินล่าช้า 30-43 นาที ขณะนี้ฝ่ายบริหารได้ดำเนินการแก้ไขแล้ว  นายโชคชัย กล่าวด้วยว่า เป้าหมายรายได้ปี 57 การบินไทยตั้งเป้าหมายรายได้เพิ่มขึ้น 5% เพราะมีการรับมอบเครื่องบินใหม่ 14 ลำ ทำให้การบริหารจัดการมีประสิทธิภาพดีขึ้น และช่วยลดต้นทุนด้านเชื้อเพลิงและการซ่อมบำรุงได้ รวมทั้งจะพิจารณาปรับลดเที่ยวบินให้สอดคล้องกับความต้องการของผู้โดยสาร เพื่อให้อัตราส่วนบรรทุกผู้โดยสารได้ตามเป้าหมายที่วางไว้ 76 % ขณะที่กำไรสุทธิของการบินไทยจะสูงกว่า 2.2% มากกว่าค่าเฉลี่ยที่สมาคมขนส่งทางอากาศระหว่างประเทศ  ประเมินไว้ โดยมีญี่ปุ่นเป็นตลาดหลัก รองลงมาเป็นจีน และอินเดีย  สำหรับสถานการณ์การบินในขณะนี้ มีการลดเที่ยวบินจากจีนลง โดยเฉพาะในเดือน ก.พ.57 ทำให้ประมาณผู้โดยสารลดลง10-15 % ส่งผลให้อัตราส่วนของการบรรทุกผู้โดยสารเหลือ 60% ส่วนเส้นทางบินอื่นๆ ในยุโรปไม่มีการเปลี่ยนแปลง 

ขอขอบคุณแหล่งที่มา : บินไทยย้ำไม่มีนักการเมืองเทคโอเวอร์

Posts related