พล.อ.ประยุทธ์จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.)เปิดเผยภายหลังการหารือกับคณะนักธุรกิจสภาธุรกิจอาเซียน-สหรัฐฯ กว่า 34 บริษัท เมื่อวันที่ 3พ.ย.ที่ผ่านมา ว่า ได้ยืนยันถึงหลักการทำงาน และเหตุผลของการเข้ามาบริหารประเทศของรัฐบาลให้กับนักลงทุนรับทราบ เพราะบริษัทส่วนใหญ่ก็ลงทุนอยู่ในประเทศไทยเป็นจำนวนมาก โดยรัฐบาลพร้อมรักษาผลประโยชน์ของนักลงทุนทุกชาติที่เข้ามาลงทุนในไทยให้ดีที่สุดและจะแก้ไขปัญหาที่เป็นอุปสรรคในด้านการค้า ซึ่งนักลงทุนก็เข้าใจ และยืนยันที่จะลงทุนในประเทศไทยต่อไป ร.อ.ยงยุทธมัยลาภ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า นายกฯได้ขอให้ภาคเอกชนเข้ามาส่งเสริมภาคธุรกิจของไทยหลายด้าน พร้อมทั้งชี้แจงถึงแผนโรดแม็พของรัฐบาลในช่วง 10 ปี ที่เน้นการวางรากฐานทางเศรษฐกิจ ส่งเสริมการค้า และการลงทุนทั้งในประเทศและต่างประเทศ ทั้งการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐาน การเชื่อมโยงการคมนาคมขนส่ง การบริหารจัดการน้ำและพลังงานสีเขียว ก็อยากให้นักลงทุนเข้ามาช่วยถ่ายทอดเทคโนโลยีให้กับไทย รวมทั้งการตลาดใหม่ๆ เพื่อเพิ่มมูลค่าสินค้าเกษตรไทย โดยรัฐบาลพร้อมสนับสนุนความร่วมมือ และปรับปรุงกติกาต่างๆให้เหมาะสม ควบคู่ไปกับการจัดระเบียบแรงงานต่างด้วยให้เกิดประโยชน์ต่อการดำเนินธุรกิจด้วย อย่างไรก็ตามรัฐบาลไทยยังอยากให้ภาคธุรกิจขยายความร่วมมือทางการเงิน และอสังหาริมทรัพย์ รวมทั้งช่วยส่งเสริมภาคการท่องเที่ยวและบริการและเข้ามาร่วมลงทุนในเขตเศรษฐกิจพิเศษที่จะเกิดขึ้น 5 แห่งในปีนี้ เพื่อส่งเสริมการค้าเช่นเดียวกันอุตสาหกรรมเอสเอ็มอีที่ต้องการให้นักลงทุนเข้ามาเชื่อมโยงถ่ายทอดเทคโนโลยีที่เป็นประโยชน์ขณะเดียวกันในเรื่องที่เป็นอุปสรรค เช่น เรื่องของวีซ่า ก็ได้สั่งให้กระทรวงการต่างประเทศไปแก้ไขปัญหาเพื่ออำนวยความสะดวกให้กับนักลงทุน  “นายกฯ ยังเน้นเรื่องของทุจริต คอรัปชั่นที่ไม่ใช่ทำแค่เจ้าหน้าที่แต่ให้ทำเป็นวาระแห่งชาติ ซึ่งยุทธศาสตร์นี้ต้องเดินหน้าโดยส่งเสริมหลักธรรมาภิบาลการปราบปรามการทุจริตคอรัปชั่นในทุกมิติ และหากนักธุรกิจ พบว่า มีการเรียกรับผลประโยชน์ก็ขอให้แจ้งเข้ามารัฐบาลจะเข้าไปจัดการทันที” ทั้งนี้นายอเล็กซานเดอร์ซี เฟลด์แมน ประธานสภาธุรกิจฯ ยืนยันว่า ได้เข้าใจสถานการณ์ในไทยและยืนยันถึงความสัมพันธ์ระหว่างสองประเทศว่าจะยังคงทำการค้า การลงทุนต่อไป ซึ่งนักลงทุนเองได้สนใจที่จะเข้าร่วมมือกับไทยหลายเรื่องเช่น การสนับสนุนภาคเอสเอ็มอี การสนับสนุนให้ไทยเป็นศูนย์กลางด้านการดูแลสุขภาพและสาธารณสุขการท่องเที่ยวเชิงสุขภาพ ด้านพลังงาน ยานยนต์ โครงสร้างพื้นฐาน เทคโนโลยี และการส่งเสริมตลาดส่งออกสินค้าเกษตรของไทยซึ่งนักลงทุนจะหาโอกาเข้าหารือกับหน่วยงานที่รับผิดชอบของไทยในด้านต่างๆ ต่อไป นอกจากนี้ นักลงทุนส่วนใหญ่ยังได้เสนอให้รัฐบาลพิจารณาปรับปรุงกฎระเบียบรวมทั้งภาษีการพัฒนาเขตอุตสาหกรรม รวมทั้งการสนับสนุนสิ่งแวดล้อมต่างๆ ที่เอื้อต่อการลงทุนเพื่อส่งเสริมการค้าและการลงทุนของไทยและต่างประเทศ ซึ่งรัฐบาลได้ชี้แจงว่า ล่าสุดอยู่ระหว่างการปรับปรุงแก้ไขกฎระเบียบต่างๆโดยเฉพาะกฎระเบียบของคณะกรรมการส่งเสริมการลงทุน (บีโอไอ)เพื่ออำนวยความสะดวกนักลงทุนเพิ่มขึ้น  

ขอขอบคุณแหล่งที่มา : “บิ๊กตู่”กล่อมต่างชาติลงทุนในไทย

Posts related