โรงแรมดาษดา จ.ปราจีนบุรี เวลา 17.00 น. เมื่อวันที่ 30 พ.ย.56 นายประสาร ไตรรัตน์วรกุล ผู้ว่าการธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) เปิดเผยว่า ขณะนี้ ทการทำงานของ ธปท.และธนาคารพาณิชย์ ยืนยันว่า ธนาคารพาณิชย์จะให้บริการได้ตามปกติ และหากสาขาธนาคารพาณิชย์อยู่ในพื้นที่ชุมนุม ผู้จัดการสาขาของธนาคารแห่งนั้นมีอำนาจในการสั่งปิดสาขาได้ทันที ตามความเหมาะสมของสถานการณ์ รวมทั้ง การให้บริการระบบชำระเงินก็มีการกระจายศูนย์กระจายธนบัตรมากขึ้น โดยยืนยันปริมาณเงินในตู้เอทีเอ็มมีเพียงพอต่อความต้องการของประชาชน อย่างไรก็ดี ธปท.มีแผนสำรองกรณีมีเหตุฉุกเฉิน หากเกิดกรณีที่ไม่คาดคิด โดยในสัปดาห์หน้าจะมีการประชุมระหว่าง ธปท.และธนาคารพาณิชย์ ผ่านระบบโทรคมนาคม อย่างใกล้ชิด ซึ่งสามารถแก้ไขปัญหาเฉพาะหน้าได้เป็นอย่างดี ทั้งนี้ ปัญหาการเมืองส่งผลกระทบโดยตรงต่อบรรยากาศของประเทศ และกระทบต่อการอุปโภค บริโภค การลงทุน และท่องเที่ยว ซึ่งจะมีผลต่อเศรษฐกิจมากน้อยแค่ไหนคงต้องติดตาม โดยล่าสุด ธปท.ได้ปรับลดประมาณการขยายตัวเศรษฐกิจลงเหลือ 3% ที่ยังไม่รวมผลกระทบการเมือง ดังนั้น ช่วงที่เหลือของปีนี้ จึงปฎิเสธไม่ได้ที่จีดีพีปีนี้จะต่ำกว่า 3% “เชื่อว่าปัญหาการเมืองนั้น เห็นว่าทุกฝ่ายพยายามหลีกเลี่ยงการใชัความรุนแรง แมัจะมีความเห็นแลกข้อเรียกร้องแตกต่าง ซึ่งคงต้องมีการหารือร่วมกัน หากทางตรงไม่ได้ก็ต้องทางอ้อม โดยเฉพาะขณะนี้มีกลุ่มบุคคลและสถาบันที่เสนอความเห็นและเสนอตัวเป็นคนกลางในการประสานหาออกในเหตุการณ์ดังกล่าว ด้วยสันติวิธีที่สุด โดยอย่างน้อยที่สุดทุกฝ่ายต้องหลีกเลี่ยงความเสี่ยงต่อร่างกายและชีวิตของประชาชน และส่วนตัวมองคิดว่าทุกฝ่ายจะยึดความต้องการของตัวเองเป็นหลักร้อยเปอร์เซนต์ไม่ได้ แต่ควรจะหาทางออกร่วมกันในแนวทางที่รับได้มากที่สุด” นายประสาร กล่าวถึงกรณีที่หลายฝ่ายเป็นห่วงว่าผลกระทบการเมืองจะทำให้เงินทุนไหลออกอย่างรุนแรงนั้น ยืนยันว่าจากการที่ ธปท.ได้ติดตามสถานการณ์เงินทุนเคลื่อนย้าย พบว่า ยังไม่มีความน่าเป็นห่วง โดยเงินทุนยังคงเคลื่อนย้ายไหลออกอย่างสมดุล รวมทั้ง อัตราแลกเปลี่ยนยังมีความยืดหยุด เงินทุนสำรองระหว่างประเทศยังมีเพียงพอที่รองรับความต้องการของนักลงทุนไทยและต่างประเทศได้

ขอขอบคุณแหล่งที่มา : ประสารยันเงินตู้เอทีเอ็มเพียงพอให้บริการปชช.

Posts related