รายงานข่าวจากกระทรวงพาณิชย์เปิดเผยว่าขณะนี้บริษัท ห้าง ร้าน ได้ร้องเรียนเข้ามายังกระทรวงพาณิชย์จำนวนมากว่า เกิดปัญหาไม่สามารถหารายชื่อผู้สอบบัญชีและผู้ทำบัญชี เพื่อจัดทำงบการเงินได้ หลังจากกรมพัฒนาธุรกิจการค้าได้โอนถ่ายงานไปให้สภาวิชาชีพบัญชีดูแล ก็ทำให้ตรวจสอบหารายชื่อผู้ทำบัญชีได้ยาก ต่างจากเดิมที่เคยหาได้ตามเว็บไซต์ของกรมพัฒนาธุรกิจการค้าที่สำคัญตอนนี้ยังมีความเสี่ยงอาจทำบัญชีส่งงบการเงินไม่ทัน เพราะปัจจุบันมีบริษัทห้างร้านเกิดขึ้นใหม่มากขึ้น   ทั้งนี้ปัจจุบันมีห้างหุ้นส่วนบริษัทจำกัดดำเนินกิจการอยู่ทั่วประเทศจำนวน 562,485 รายมีทุนจดทะเบียนรวมทั้งสิ้น 10.74 ล้านล้านบาทแบ่งเป็นบริษัทจำกัด 382,759 ราย บริษัทมหาชนจำกัด 1,036 ราย และห้างหุ้นส่วนจำกัด ห้างหุ้นส่วนสามัญนิติบุคคล 178,690ราย    “เมื่อก่อนธุรกิจสามารถหาผู้ทำบัญชีผู้สอบบัญชีได้ไม่ยาก ยิ่งตอนที่กรมพัฒนาธุรกิจการค้าดูแลอยู่ สามารถค้นหาได้เลยแต่พอโอนงานออกไป เหมือนกับผลักภาระทิ้งไปให้สภาวิชาชีพบัญชีดูแล และพอดูแลไม่ดีทำให้ธุรกิจเดือดร้อน ยิ่งตอนนี้รัฐบาลส่งเสริมให้มีการจดทะเบียนจัดตั้งนิติบุคคลเพิ่มมากขึ้นเพื่อผลักดันให้มีการทำธุรกิจโปร่งใส แต่มาเจอปัญหาแบบนี้ก็ยิ่งแย่ แถมตอนนี้มีการออกกฎให้ผู้สอบบัญชีเซ็นงบเหลือเพียงปีละ200 งบ จากเดิม 300 งบ ก็ยิ่งหาคนทำได้ยากไปอีก”   รายงานข่าวแจ้งว่าสาเหตุที่ทำให้สภาวิชาชีพบัญชีออกกฎให้ผู้สอบบัญชีรับอนุญาตสามารถเซ็นงบได้ปีละ200 งบ เริ่มปี 57 เป็นต้นไป เนื่องจากสภาวิชาชีพบัญชี ที่มีผู้บริหารส่วนใหญ่มาจากสำนักงานบัญชีรายใหญ่ของไทยได้กำหนดนโยบาย เพื่อต้องการให้สำนักงานบัญชีรายย่อยทำงานได้ยากขึ้นเพราะถูกจำกัดงานที่สำคัญผลกระทบของกฎนี้ยังทำให้สำนักงานบัญชีรายย่อย และภาคธุรกิจต้องเดือดร้อน มีธุรกิจจำนวนมากไม่สามารถหาผู้ทำบัญชีและสอบบัญชีได้และเมื่อไปขอให้สำนักงานบัญชีใหญ่ๆ ก็ต้องจ่ายแพงขึ้นและมีต้นทุนสูงกว่าผู้ทำบัญชีรายเล็ก   ล่าสุดสภาวิชาชีพบัญชียังได้ออกกฎระเบียบใหม่โดยกำหนดให้ผู้ที่จะเป็นสมาชิกสภาวิชาชีพบัญชี จะต้องเสียค่าสมาชิกปีละ 500 บาทซึ่งสำหรับนักบัญชีที่มีงานทำแล้ว ก็ไม่น่าจะมีปัญหาแต่สำหรับผู้ที่เพิ่งจบการศึกษามาใหม่ๆ หากอยากเป็นสมาชิกก็ต้องจ่ายและต้องจ่ายทุกปี ซึ่งถือเป็นค่าใช้จ่ายสำหรับเด็กจบใหม่และยังต้องจ่ายค่าสอบวิชาชีพ เพื่อให้ได้ใบอนุญาตอีกวิชาละ 1,000 บาท 6 วิชา รวม 6,000 บาท ซึ่งเมื่อสอบผ่านจนได้รับใบประกอบวิชาชีพแล้วก็ต้องจ่ายค่าสมาชิกอีกปีละ 2,000 บาททุกปีรวมทั้งต้องมีการอบรมวิชาชีพบัญชีจาก 12 ชั่วโมง เป็น 18 ชั่วโมงด้วย โดยการปรับขึ้นค่าธรรมเนียมครั้งนี้  สภาวิชาชีพบัญชี ได้แจงว่าเพื่อนำมาใช้เป็นค่าใช้จ่ายในการปรับปรุงพัฒนาระบบการบัญชีของไทยให้ได้มาตรฐานโลกและเพื่อรองรับการเข้าสู่ประชาคมเศรษฐกิจอาเซียน 

ขอขอบคุณแหล่งที่มา : ผู้ประกอบการร้องเรียนหาผู้ทำบัญชียาก

Posts related