นายวรเดช หาญประเสริฐอธิบดีกรมการบินพลเรือน (บพ.) เปิดเผยถึงกรณีพบคนนอกหลบเลี่ยงมาตรการความปลอดภัยสนามบินขึ้นเครื่องบินนกแอร์ ว่าปัญหาที่เกิดขึ้น มาจากความบกพร่องด้านความปลอดภัยดังนั้นบพ. จึงใช้อำนาจตามพ.ร.บ.การเดินอากาศ พ.ศ. 2497เรียกตัวแทนจากบริษัทท่าอากาศยานไทย จำกัด มหาชน (ทอท.) และบริษัทสายการบินนกแอร์จำกัด (มหาชน)มาชี้แจงรายละเอียดเกี่ยวกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นเพื่อนำมาใช้เป็นข้อมูลประกอบการพิจารณาสอบสวนหาคนผิดทั้งนี้จากการพิจารณาข้อเท็จจริงเบื้องต้นถือว่าทั้ง 2 หน่วยงาน หละหลวม ปล่อยให้บุคคลภายนอกลักลอบขึ้นเครื่องมาได้ โดยไม่มีการตรวจบัตรโดยสาร ซึ่งต้องสืบหาข้อมูลรายละเอียดให้ได้ว่าปัญหานี้มีสาเหตุมาจากการทำงานที่ผิดพลาดของคน หรือระบบความปลอดภัย เพื่อหาแนวทางการแก้ไขให้ตรงจุด คาดจะสอบข้อเท็จจริงแล้วเสร็จและนำเสนอให้กระทรวงคมนาคมพิจารณาได้ภายในเดือนเม.ย.นี้อย่างไรก็ตาม ปกติสนามบินทุกแห่ง จะต้องปฏิบัติตามกฎด้านความปลอดภัยในการเดินอากาศอย่างเคร่งครัด 2 ขั้นตอน เริ่มตั้งแต่เข้าสู่สนามบิน จนถึงการเข้าสู่ตัวเครื่องบินเพื่อเดินทาง ขั้นตอนแรกคือการตรวจสอบความปลอดภัยการเข้าสู่สนามบิน ซึ่งเจ้าหน้าที่จะตรวจเอ็กเรย์ผู้โดยสาร สัมภาระ และการปลดอาวุธรวมถึงการตรวจบัตรโดยสารครั้งแรก และขั้นตอนที่ 2การตรวจสอบความปลอดภัยก่อนขึ้นเครื่องโดยสาร ที่เจ้าหน้าที่สายการบินต้องตรวจสอบบัตรโดยสารของผู้โดยสารทุกคนก่อนขึ้นเครื่อง จึงจะขึ้นเครื่องได้ด้านนายสมชัยศิริวัฒนโชคปลัดกระทรวงคมนาคม กล่าวว่า นายชัชชาติ สิทธิพันธุ์ รมว.คมนาคม ได้กำชับให้กระทรวงเร่งสืบหาข้อเท็จจริง และสาเหตุของปัญหากรณีนายอาซิส ไม่ทราบนามสกุล ได้ลักลอบขึ้นเครื่องบินของสารการบินนกแอร์ ทั้งที่ไม่มีตั๋วโดยสารและไม่ผ่านการตรวจสอบของเจ้าหน้าที่สนามบินหาดใหญ่เนื่องจากเป็นเรื่องเกี่ยวกับความเชื่อมั่น ด้านความปลอดภัยในการเดินทางของประชาชนซึ่งตนได้กำชับให้กรมการบินพลเรือน เร่งสอบสวนข้อเท็จจริงแล้ว โดยผลการสอบสวนจะต้องสามารถอธิบายเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นได้และจะต้องมีคนที่รับผิดชอบกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น เพราะเป็นเรื่องที่เกี่ยวกับการความเชื่อมั่นของคนเดินทางจำนวนมากทั้งคนไทยและนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติที่เดินทางเข้ามาในประเทศ

ขอขอบคุณแหล่งที่มา : พบ.เร่งสอบกรณีนกแอร์

Posts related