นายสมชัย สัจจพงษ์ อธิบดีกรมศุลกากร เปิดเผยว่า ภายหลังการเข้ารับตำแหน่งจะต้องมีการหารือร่วมกับผู้บริหารของกรมฯ เกี่ยวกับแนวทางและวิธีการทำงาน โดยเฉพาะเรื่องการป้องกันและปราบปรามการทุจริต ศึกษาข้อมูลเกี่ยวกับแผนงานของกรมฯ ว่ามีโครงการใดบ้างที่ดำเนินการได้อย่างมีประสิทธิภาพ และมีโครงการใดที่ยังคงติดค้างอยู่ ก็ต้องเร่งเข้าไปสานต่อเพื่อให้เกิดประโยชน์โดยเร็วที่สุด โดยหลักการทำงานในเบื้องต้นจะต้องสอดคล้องและเป็นไปตามนโยบายของคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) นอกจากนี้ จะเข้าไปดูเรื่องการเพิ่มประสิทธิภาพการจัดเก็บรายได้ของกรมฯ เพื่อให้เป็นไปตามเป้าที่ได้รับมอบหมายที่ 131,000 ล้านบาท โดยยอมรับว่าปัจจัยที่มีผลกดดันการทำงานที่สำคัญได้แก่ ภาวะเศรษฐกิจโลกที่ยังไม่ฟื้นตัวอย่างเต็มที่ ซึ่งมีผลต่อการนำเข้าสินค้าของผู้ประกอบการ และส่งผลกดดันการทำงานของกรมศุลกากรมากที่สุด แต่ก็ต้องมีการปรับตัว และเพิ่มประสิทธิภาพในส่วนที่สามารถดำเนินการได้ “เรื่องเป้าหมายรายได้เมื่อสำนักงานเศรษฐกิจการคลัง (สศค.) ไม่ได้ปรับลดเป้าหมายให้ ก็ต้องเดินหน้าตามเป้าหมายเดิมให้ดีที่สุด ต้องไปดูว่าส่วนไหนยังมีอะไรให้ทำได้บ้าง เพราะการจัดเก็บภาษีเป็นหน้าที่ของกรมจัดเก็บที่ต้องดำเนินการอยู่แล้ว ส่วนเรื่องที่หลายคนจับตาเกี่ยวกับการประมูลรถยนต์หรู 300 คันในวันที่ 4 ก.ค. นี้นั้น ผมเพิ่งเข้าไปทำงานก็อาจจะยังไม่มีการปรับหลักเกณฑ์อะไร เพราะเรายังไม่มีข้อมูลเพียงพอที่จะเข้าไปรื้อเกณฑ์ของคนที่เคยทำอยู่แล้ว แต่เรื่องนี้ก็จะมีการพิจารณาในระยะต่อไปเมื่อมีการหารือและและมีข้อมูลที่ชัดเจนเพียงพอ”

ขอขอบคุณแหล่งที่มา : พร้อมลุยนโยบายศุลกากร

Posts related