นายสุเทพ  เหลี่ยมศิริเจริญปลัดกระทรวงพลังงาน เปิดเผยว่ากระทรวงพลังงานได้เรียกประชุมคณะทำงานติดตามการบริหารเชื้อเพลิงเพื่อหารือถึงการหยุดซ่อมแหล่งก๊าซ 2 แหล่งหลักในปีนี้ทั้งแหล่งบงกชในช่วงระหว่างวันที่ 10-27 เม.ย. 57  และแหล่งก๊าซธรรมชาติในพื้นที่พัฒนาร่วมระหว่างไทยและมาเลเซีย(เจดีเอ) ที่จะปิดซ่อมบำรุงครั้งใหญ่ระหว่างวันที่ 13 มิ.ย. – 10 ก.ค. 57 ทำให้โรงไฟฟ้าจะนะจ.สงขลา ซึ่งอาศัยก๊าซฯจากแหล่งดังกล่าวเป็นเชื้อเพลิงในการผลิตต้องหยุดเดินเครื่องเพราะไม่สามารถใช้เชื้อเพลิงอื่นทดแทนได้ และทำให้ไฟฟ้าหายไปจากระบบถึง700 เมกะวัตต์   ทั้งนี้กระทรวงพลังงาน มีความเป็นห่วงสถานการณ์ โดยเฉพาะจากแหล่งเจดีเอและไม่ต้องการให้เกิดกรณีไฟฟ้าดับ 14 จังหวัด ซ้ำกับปีที่แล้ว จึงได้มีการติดตามและหาทางป้องกันไม่ให้เกิดเหตุการณ์ไฟฟ้าดับขึ้น โดยจากการหารือกันนี้ทางการไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย (กฟผ.) ก็ได้รายงานถึงมาตรการรองรับโดยมีการปรับแผนตรวจสอบและบำรุงรักษาโรงไฟฟ้าภาคใต้รวมถึงไม่ให้มีการหยุดบำรุงรักษาช่วงที่แหล่งเจดีเอปิดซ่อมอีกทั้งยังมีการเตรียมความพร้อมโรงไฟฟ้าภาคใต้ทุกเครื่อง อาทิโรงไฟฟ้ากระบี่ได้ทดสอบให้เดินเครื่องเต็มกำลังผลิต 24 ชั่วโมงตลอดระยะเวลา 14 วัน เพื่อมาช่วยเสริมไฟฟ้าในระบบทดแทนโรงไฟฟ้าจะนะ   นอกจากนี้กฟผ. ได้มีการตรวจสอบอุปกรณ์ระบบส่ง และระบบป้องกันให้มีความพร้อมใช้งานโดยจะดำเนินการแล้วเสร็จภายในเดือนพ .ค. 57 ขณะเดียวกันก็ได้ประสานงานจัดเตรียมแผนย้ายโหลดหรือแผนดับไฟร่วมกับการไฟฟ้าส่วนภูมิภาค (กฟภ.)สำหรับใช้ในกรณีฉุกเฉินอื่นๆ เพิ่มเติมด้วยส่วนการดึงไฟฟ้าจากภาคกลางลงมาเสริมนั้น กระทรวงพลังงานได้หารือกับกฟผ.ให้ส่งไฟฟ้าจากภาคกลางในปริมาณรองรับมาตรฐานความมั่นคงด้านไฟฟ้าโดยไม่กระทบกับภาคกลาง โดยคาดว่าจะมีการส่งไฟฟ้าจากภาคกลางเข้าระบบส่งไฟฟ้าภาคใต้ปริมาณ 700 เมกะวัตต์ซึ่งโดยปกติภาคใต้ก็ต้องรับไฟฟ้าจากภาคกลางอยู่แล้วประมาณ 500 เมกะวัตต์ ทั้งนี้ หากมีความจำเป็นสามารถจัดส่งได้เพิ่มโดยสามารถนำเข้าได้สูงสุดที่ 1,050 เมกะวัตต์  

ขอขอบคุณแหล่งที่มา : พลังงานรับมือแหล่งก๊าซเจดีเอหยุดซ่อม

Posts related