น.ส.ผ่องพรรณ เจียรวิริยะพันธ์ อธิบดีกรมพัฒนาธุรกิจการค้า เปิดเผยว่า กรมฯ มีแผนที่จะตรวจสอบการประกอบธุรกิจของคนต่างด้าวที่เข้ามาประกอบธุรกิจในประเทศไทย โดยในปีงบประมาณ 57 ได้ตรวจสอบนิติบุคคลไทยที่มีคนต่างด้าวถือหุ้นไม่ถึง 50% ไปแล้วจำนวน 2,300 ราย ซึ่งถือเป็นกลุ่มเสี่ยง เบื้องต้นมีจำนวน 61 ราย ที่เข้าข่ายมีคนไทยถือหุ้นแทนคนต่างชาติ (นอมินี) เพื่อประกอบธุรกิจที่สงวนไว้ให้กับคนไทย โดยแยกเป็นในกรุงเทพฯ 29 ราย และต่างจังหวัด 32 ราย ส่วนใหญ่อยู่ในจังหวัดท่องเที่ยวอย่าง เชียงใหม่ ภูเก็ต และชลบุรี ในกิจการ อสังหาริมทรัพย์ ซื้อที่ดิน การท่องเที่ยว และการบริการ ทั้งนี้ กรมจะเร่งเชิญให้กรรมการบริษัทมาชี้แจงข้อเท็จจริงและให้นำส่งเอกสารที่เกี่ยวข้อง ซึ่งหากพบว่าประกอบธุรกิจที่ห้ามคนต่างชาติทำโดยไม่ได้รับอนุญาต ก็จะส่งดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป โดยมีโทษจำคุกไม่เกิน 3 ปี ปรับตั้งแต่ 100,000 – 1 ล้านบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ และให้ศาลสั่งให้เลิกการให้ความช่วยเหลือหรือสนับสนุน หรือเลิกการร่วมประกอบธุรกิจ หรือเลิกการถือหุ้น หากไม่ปฏิบัติตาม ต้องระวางโทษปรับวันละ 10,000 – 50,000บาท ตลอดเวลาที่ฝ่าฝืน “การตรวจสอบการประกอบธุรกิจของคนต่างชาติ ที่มาใช้ให้คนไทยถือหุ้นแทนนั้น กรมฯ จะดำเนินการอย่างเต็มที่ เพราะไม่อยากให้เกิดการเข้ามาเอารัดเอาเปรียบธุรกิจของคนไทย จนทำให้ธุรกิจคนไทยแข่งขันไม่ได้ อีกทั้งยังเป็นการทำผิดกฎหมาย ซึ่งอยากจะขอเตือนไปยังธุรกิจที่ดำเนินการเป็นนอมินีให้ต่างชาติขอให้หยุดการกระทำ เพราะถ้าตรวจสอบพบ จะดำเนินการตามกฎหมายโดยไม่ละเว้น” น.ส.ผ่องพรรณ กล่าวสำหรับการตรวจสอบนอมินีของกรมฯ ในปี 56 ที่ผ่านมา ซึ่งได้เริ่มดำเนินการตั้งแต่เดือนต.ค.55-ก.ย 56 ได้เน้นการตรวจสอบนิติบุคคลที่มีคนต่างด้าวเข้ามาถือหุ้น โดยเน้นกลุ่มธุรกิจที่มีสถานที่ตั้งอยู่ในจังหวัดที่เป็นแหล่งท่องเที่ยวสำคัญๆ คือ กระบี่ ชลบุรี ประจวบคีรีขันธ์ ภูเก็ต สุราษฎร์ธานี เชียงใหม่ และเชียงราย พบว่า มีนิติบุคคลที่เข้าข่ายกระทำความผิดเป็นนอมินีจำนวน 14 ราย แบ่งเป็นจังหวัดชลบุรี จำนวน 9 ราย ประจวบคีรีขันธ์ จำนวน 2 ราย และสุราษฎร์ธานี จำนวน 3 ราย 

ขอขอบคุณแหล่งที่มา : พาณิชย์ลุยตรวจธุรกิจต่างด้าว

Posts related