รายงานข่าวจากกรมการค้าต่างประเทศ (คต.) เปิดเผยว่า ขณะนี้ประเทศไทยอาจไม่มีสิทธิ์เข้าร่วมประมูลข้าวในสต็อกให้แก่รัฐบาลฟิลิปปินส์ จำนำวน 800,000  ตัน ซึ่งคาดว่าจะมีการเปิดประมูลในวันที่ 15เม.ย.นี้ เนื่องจากการศึกษาเงื่อนไขที่ทางการฟิลิปปินส์กำหนดมาพบว่าผู้ร่วมประมูลต้องใช้เงินค้ำซอง 2% ของมูลค่าข้าวที่จะประมูล แต่ประเทศยังไม่มีเงินจำนวนดังกล่าว เพราะจะติดขัดปัญหาการดำเนินการเบิกจ่ายของกระทรวงการคลัง ที่คาดว่าจะใช้เงินในระดับหลัก 100 ล้านบาท“การประมูลข้าวของฟิลิปปินส์คราวนี้ไม่ได้กำหนดการมีเอ็มโอยูหรือข้อตกลงร่วมกันมาก่อนเพราะเปิดให้เอกชนเข้ามาร่วมประมูลด้วย แต่ต้องมีเงินค้ำประกันซอง ซึ่งเราไม่สามารถเบิกจ่ายเงินตรงนี้มาได้ ที่ผ่านมาเราไม่ต้องใช้เงินส่วนนี้เพราะเป็นการซื้อขายแบบรัฐต่อรัฐแต่คราวนี้เป็นการเปิดประมูลทั่วไปที่ต้องใช้เงินค้ำประกันซองทำให้ไม่สามารถร่วมประมูลได้”อย่างไรก็ตามแม้ว่าภาครัฐจะไม่สามารถร่วมประมูลข้าวในล๊อตดังกล่าวได้ก็จะสนับสนุนให้เอกชนเป็นผู้เข้าร่วมประมูลข้าวกับฟิลิปปินส์แทนและไม่คิดว่าเป็นการเสียโอกาสของภาครัฐเพราะถึงอย่างไรหากเอกชนไทยชนะการประมูลข้าวก็ต้องนำเข้าจากโกดังรัฐที่ได้จากการระบายของรัฐบาลไปส่งมอบจึงไม่ถือว่าภาครัฐเสียประโยชน์ และไม่น่ากังวลใจว่าจะไม่สามารถระบายข้าวได้เพราะขณะนี้กรมได้หารือเพื่อระบายข้าวกับประเทศอื่นๆอย่างต่อเนื่อง ล่าสุดคือทางการอิรักที่ไม่ได้นำเข้าข้าวจากไทยมานานจากที่เคยนำเข้าจากไทยปีละ 700,000-800,000 ตันก็สนใจที่จะหันกลับมานำเข้าข้าวจากไทยอีกครั้ง โดยตัวแทนจากรัฐบาลอิรักจะเดินทางมาพบหารือกับทางอธิบดีกรมการค้าต่างประเทศภายในเดือนเม.ย.นี้”ที่ผ่านมาอิรักได้สั่งนำเข้าข้าวจากเอกชนไทยมาตลอดแต่เพิ่งหยุดไปในเดือนส.ค. 56 ที่่ผ่านมาซึ่งเกิดจากความไม่มั่นใจเรื่องคุณภาพข้าว ดังนั้นกรมจึงต้องเดินทางไปเพื่อชี้แจงขอให้ทางการอิรักเปิดตลาดให้กับข้าวไทยอีกครั้ง และจากการหารือก็มีแนวโน้มว่าอิรักสนใจที่จะนำเข้าข้าวไทยเพราะเชื่อมั่นในคุณภาพข้าวไทยอีกครั้ง  คาดว่าจะกลับมานำเข้าในปริมาณเท่ากับที่เคยนำเข้ามาก่อนในเร็วๆนี้ จึงถือว่าเราได้ช่วยปลดล๊อคข้าวไทยให้กลับไปขายในตลาดอิรักได้อีกครั้ง” 

ขอขอบคุณแหล่งที่มา : พาณิชย์ส่อแห้วร่วมประมูลขายข้าวฟิลิปปินส์

Posts related