รายงานข่าวจากกระทรวงพาณิชย์แจ้งว่า กรมการค้าต่างประเทศได้ออกประกาศจำหน่ายข้าวสารสต๊อกรัฐบาล ครั้งที่2/2557  โดยจะเปิดประมูลเป็นการทั่วไปรวมปริมาณทั้งสิ้น  139,675ตัน แบ่งเป็นข้าว หอมมะลิ 100% ชั้น 2  ข้าวเหนียวขาว 10% ข้าวท่อนหอมมะลิปลายข้าวหอมมะลิ ปลายข้าวปทุมธานี ปลายข้าวเหนียวเอวัน และปลายข้าวขาวเอวันเลิศโครงการนาปี ฤดูกาลผลิต ปี 2554/55  นาปรัง2555  ปี และ 2556/57 แบบรายคลัง หรือรายกอง ในคลังขององค์การคลังสินค้า (อคส.)และองค์การตลาดเพื่อเกษตรกร (อตก.) โดยการประมูลครั้งนี้ไม่มีการนำข้าวขาว 5% มาเปิดประมูลเนื่องจากยังรอผลการตรวจสอบคุณภาพข้าวก่อน                 อย่างไรก็ตามกรมการค้าต่างประเทศจะชี้แจงรายละเอียดเพิ่มเติมในการประมูล ในวันที่ 9 ก.ย. นี้และจะเปิดให้มีการยื่นซองเสนอราคาในวันที่ 12 ก.ย. ตั้งแต่เวลา 08.30-11.00 น.หลังจากนั้นในวันเดียวกันก็จะประกาศรายชื่อผู้มีคุณสมบัติและเปิดซอง ในเวลา 13.30น.                 นายชูเกียรติโอภาสวงศ์ นายกกิตติมศักดิ์สมาคมผู้ส่งออกข้าวไทย กล่าวว่า การเปิดประมูลสต็อกข้าวสารของรัฐบาลในรอบ2 เชื่อว่าจะมีเอกชนสนใจเข้ามาร่วมเสนอราคา เพราะกระทรวงฯได้มีการนำข้าวหอมมะลิออกมาเปิดประมูลถือว่าเป็นการนำออกมาประมูลในช่วงถูกจังหวะเวลาเนื่องจากข้าวหอมมะลิฤดูกาลใหม่ยังไม่ทยอยออกสู่ตลาดดังนั้นราคาเสนอซื้อข้าวหอมมะลิน่าจะสูงกว่าราคาเสนอซื้อในรอบแรกที่มีการเสนอซื้อเฉลี่ยตันละ 28,000 บาทส่วนราคาเสนอซื้อข้าวเหนียว คาดว่าจะมีเสนอราคาใกล้เคียงกับรอบแรก                 “การที่กระทรวงพาณิชย์ยังไม่นำข้าวขาวที่มีปัญหาราคาตกต่ำในตลาดขณะนี้ ออกมาเปิดประมูลถือว่าทำถูกต้องแล้วเพราะจะยิ่งทำให้ราคาตกต่ำ ซึ่งต้องให้พ้นระยะนี้ไปก่อนเพื่อให้สถานการณ์ราคาข้าวเปลือกเจ้ากลับมาดีขึ้น” ด้านสาเหตุที่ราคาข้าวเปลือกเจ้าตกต่ำในขณะนี้มาจากหลายปัจจัยทั้งการที่ผลผลิข้าวเปลือกนาปรังในช่วง 2 เดือนสุดท้ายก่อนที่ผลผลิตข้าวเปลือกนาปีจะทยอยออกมาประกอบกับเป็นช่วงฤดูฝนทำให้ข้าวเปลือกมีความชื้นสูง จึงทำให้ถูกหักราคา                 นายชูเกียรติกล่าวว่า กรณีที่มีกระแสข่าวผู้ส่งออกหยุดรับซื้อข้าวนั้นเป็นผลมาจากการที่ไม่มีเรือมารับข้าวไปตลาดแอฟริกาจากปัญหาการระบาดของเชื้ออีโบล่าประกอบการอุตสาหกรรมข้าวในช่วงที่ผ่านมาขาดแคลนแรงงานจึงทำให้การขนถ่ายข้าวลงเรือเป็นไปอย่างลำบาก ทำให้ข้าวในโกดังของผู้ส่งออกจึงยังไม่ถูกระบายหรือส่งออกไปขายจนต้องชะลอการซื้อข้าวในตลาดชั่วคราว แต่เชื่อภาวะดังกล่าวเกิดขึ้นชั่วคราวและน่าจะกลับเข้าสู่ภาวะปกติในเร็วๆนี้  และราคาข้าวเปลือกน่าจะทยอยปรับขึ้นในอีกไม่ช้า                 สำหรับผลผลิตข้าวเปลือกฤดูกาลใหม่หรือข้าวเปลือกนาปี 2557/58 ที่กำลังทยอยออกสู่ตลาดในช่วงเดือนพ.ย.นี้จะยิ่งทำให้ราคาข้าวในตลาดตกต่ำหรือไม่นั้นขึ้นอยู่กับการหาตลาดรองรับข้าวฤดูกาลใหม่ซึ่งภาครัฐและผู้ส่งออกำลังร่วมมือกันในการหาตลาดรองรับข้าวฤดูกาลใหม่หากหาตลาดรองรับได้เชื่อว่าแนวโน้มราคาข้าวจะปรับตัวสูงขึ้น และอยู่ในกรอบ 8,500-9,000 บาท/ตันตามเป้าหมายที่กระทรวงพาณิชย์ต้องการจะผลักดันระดับราคาข้าวเปลือก

ขอขอบคุณแหล่งที่มา : พาณิชย์เตรียมประมูลข้าว 1.4 แสนตัน

Posts related