นายนิวัฒน์ธำรง บุญทรงไพศาล รองนายกรัฐมนตรีและ รมว.พาณิชย์ เปิดเผยว่า ขณะนี้รัฐมนตรีกระทรวงเศรษฐกิจ การศึกษาและการวิจัยสมาพันธรัฐสวิส ได้นำคณะนักธุรกิจจากบริษัทชั้นนำ เช่น ผู้ผลิตยาและเวชภัณฑ์, ผู้ผลิตเครื่องจักรและอุปกรณ์สำหรับโรงงานไฟฟ้า, ผู้ผลิตซอฟแวร์และไอที เป็นต้น มาหารือในการเพิ่มความร่วมมือทางด้านการค้า การลงทุน และแก้ปัญหาอุปสรรคทางการค้าระหว่างกันให้หมดไป “ทั้งสองฝ่ายยังเห็นพ้องเร่งรัดการเจรจาเอฟทีเอไทย-สมาคมการค้าเสรีแห่งยุโรป (เอฟตา)เพื่อเป็นเครื่องมือในการขยายโอกาสทางการค้า การลงทุนระหว่างไทยกับกลุ่มประเทศเอฟตาที่ประกอบด้วย 4 ประเทศสมาชิก คือ สมาพันธรัฐสวิส นอร์เวย์ ไอซ์แลนด์ ลิกเทนสไตน์ ซึ่งทั้งหมดไม่ได้เป็นสมาชิกสหภาพยุโรป โดยทั้งสองฝ่ายวางแผนที่จะเริ่มเจรจาความตกลง เอฟทีเอในต้นปี 57 และในส่วนของไทยก็มีความพร้อมเต็มที่ หลังจากที่รัฐสภาได้เห็นชอบกรอบการเจรจาเอฟทีเอไทย-เอฟตา ไปแล้วเมื่อวันที่ 2 ต.ค.56 ที่ผ่านมา” ทั้งนี้ การเจรจาเอฟทีเอ ไทย-เอฟตา จะช่วยสร้างโอกาสทางการค้า และการลงทุนให้กับไทย และเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขันให้กับไทย เพราะขณะนี้ประเทศในอาเซียน ได้แก่ สิงคโปร์ อินโดนีเซีย มาเลเซีย และเวียดนาม ได้ทำ เอฟทีเอกับเอฟตาแล้ว หากไทยไม่เจรจา อาจทำให้สินค้าไทยไม่สามารถแข่งขันกับสินค้าจากคู่แข่งในอาเซียน และอาจมีการย้ายฐานการลงทุนไปยังอาเซียนอื่นได้ แต่การทำเอฟทีเอจะช่วยผลักดันให้ไทยยังคงเป็นศูนย์กลางการค้า การลงทุนของเอฟตาในอาเซียนได้ต่อไป ขณะเดียวกัน การทำเอฟทีเอยังช่วยแก้ปัญหาการเปลี่ยนแปลงเงื่อนไขการให้สิทธิพิเศษทางภาษีศุลกากร (จีเอสพี) ที่สวิสและนอร์เวย์ให้กับไทย เพราะแม้จะตัดหรือเลิกให้จีเอสพีไทยก็ยังใช้สิทธิภายใต้เอฟทีเอได้ โดยปัจจุบันสินค้าที่ไทยใช้จีเอสพีของสวิสสูงถึง 43% นอร์เวย์ 41% สินค้าที่ใช้สิทธิสูง เช่น หน้าปัดนาฬิกา ปลาทูน่ากระป๋อง ตัวเรือนนาฬิกา เพชรพลอยและส่วนประกอบ ข้าวหอมมะลิ ข้าวโพดหวาน อาหารปรุงแต่งต่างๆ และเครื่องปรับอากาศ เป็นต้น สำหรับสมาพันธรัฐสวิส เป็นประเทศที่มีความสำคัญต่อเศรษฐกิจโลก เป็นผู้ลงทุนสำคัญและศูนย์กลางการเงิน ตลาดทุน และบริษัทชั้นนำของโลก ในด้านการค้า สมาพันธรัฐสวิสเป็นคู่ค้าอันดับที่ 9 ของไทย ในปี 56 (ม.ค.-ก.ย.) การค้ารวมมีมูลค่า 8,603.57 ล้านเหรียญสหรัฐ และยังเป็นนักลงทุนหลักจากเอฟตาที่เข้ามาลงทุนในประเทศไทยมากที่สุด โดยในปี 55 มีมูลค่าการเข้ามาลงทุนในไทย ประมาณ 2,800 ล้านเหรียญสหรัฐ ++++++++++++

ขอขอบคุณแหล่งที่มา : พาณิชย์เร่งขยายการค้าลงทุนตปท.

Posts related