นางสาวผ่องพรรณ เจียรวิริยะพันธ์ อธิบดีกรมพัฒนาธุรกิจการค้า กระทรวงพาณิชย์ เปิดเผยว่านางสาวชุติมา บุณยประภัศร ปลัดกระทรวงพาณิชย์ได้มอบหมายให้กรมฯ ร่วมกับกรมอุทยานแห่งชาติสัตว์ป่า และพันธุ์พืชกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติ และสิ่งแวดล้อมเร่งจัดระเบียบผู้ค้างาช้างในประเทศไทย ให้เป็นระบบ พร้อมดำเนินการขึ้นทะเบียนบัญชีผู้ค้างาช้างของไทย ให้เป็นปัจจุบันที่สุด หลังพบว่าไทยเป็น 1 ใน 8 ประเทศ ที่ถูกจับตาเป็นพิเศษ เกี่ยวกับปัญหาการลักลอบค้างาช้าง และนอแรดแบบผิดกฎหมายรวมทั้งเป็นแหล่งค้างาช้างที่สำคัญระดับโลก“กรมฯ ไม่ได้นิ่งนอนใจในเรื่องนี้ และมองว่าเป็นปัญหาระดับชาติที่ต้องเร่งแก้ไข จึงได้ร่วมมือกับกรมอุทยานแห่งชาติสัตว์ป่า และพันธุ์พืช เตรียมลงพื้นที่ค้างาช้างสำคัญทั่วประเทศ เพื่อทำความเข้าใจ พร้อมเชิญชวนให้ผู้ประกอบการค้างาช้าง จดทะเบียนพาณิชย์ให้ถูกต้องตามกฎหมาย โดยจะเชิญเจ้าหน้าที่จากกรุงเทพมหานครและองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น มาอำนวยความสะดวกในการจดทะเบียนพาณิชย์ แก่ผู้ประกอบการค้างาช้างในพื้นที่ด้วย”เบื้องต้น เตรียมลงพื้นที่นำร่องในเขตได้แก่ ตลาดนัดสวนจตุจักร และท่าพระจันทร์ เป็นลำดับแรก เนื่องจากเป็นพื้นที่ที่มีผู้ประกอบการค้างาช้างเป็นจำนวนมาก หลังจากนั้น จะทยอยลงพื้นที่ในเขตอื่น ๆ และในส่วนภูมิภาคต่อไปนางสาวผ่องพรรณ กล่าวว่า การที่ประเทศไทยถูกจัดให้อยู่ในกลุ่มประเทศที่ต้องเฝ้าจับตาเป็นพิเศษ1 ใน 8 ประเทศ ว่ามีส่วนต่อขบวนการค้างาช้าง และลักลอบขายงาช้างผิดกฎหมาย รวมถึงไม่มีผลงานในเชิงบวก ที่แสดงให้เห็นถึงความพยายามเกี่ยวกับการดำเนินการตามกฎหมาย ในการควบคุมการลักลอบค้างาช้างอย่างเข้มงวด อาจทำให้ประเทศไทย ถูกนานาชาติใช้มาตรการคว่ำบาตรทางการค้าสินค้า เชิงพาณิชย์ทุกประเภท ที่อยู่ภายใต้ความควบคุมของไซเตส (อนุสัญญาว่าด้วยการค้าระหว่างประเทศซึ่งชนิดสัตว์ป่าและพืชป่าที่ใกล้จะสูญพันธุ์)เช่น กล้วยไม้ หนังสัตว์เลื้อยคลาน และหนังฟอก (หนังงู และหนังจระเข้) ไม้หายาก เป็นต้น ซึ่งจะส่งผลกระทบในภาพรวมต่อการส่งออก และนำเข้าสินค้าของไทยในอนาคต“ไซเตส กำหนดให้“ช้าง”เป็นสัตว์ป่าที่ถูกควบคุมในบัญชีหมายเลข 1 เป็นชนิดพันธุ์ของสัตว์ป่าที่มีสถานภาพใกล้สูญพันธุ์ ห้ามค้าในเชิงพาณิชย์ เว้นแต่ทำการศึกษาวิจัย เพาะพันธุ์การส่งออก จะต้องได้รับความยินยอมจากประเทศที่นำเข้าเสียก่อน”

ขอขอบคุณแหล่งที่มา : พาณิชย์เร่งจัดระเบียบร้านค้างาช้าง

Posts related